แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความสำเร็จ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความสำเร็จ แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

พลังแห่งความสร้างสรรค์



ผมพบว่าเบื้องหลังความสำเร็จของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งผมได้สิทธิพิเศษในการวิเคราะห์

มักได้รับแรงบันดาลใจจากผู้หญิง ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็คือภรรยานั่นเอง ซึ่งสังคมทั่วไปมักไม่ค่อยจะรู้

จากการศึกษาของผมพบว่า มีอยู่บางรายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหญิงอื่น

หน้าประวัติศาสตร์ได้จารึกความสำเร็จของผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับอิทธิพลจากผู้หญิงซึ่งกระตุ้นจิตใจให้เกิดความคิดส

ร้างสรรค์ นโปเลียน โบนาปาร์ต เป็นหนึ่งในนั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจจากโจเซฟินภรรยาคนแรก

ทำให้เขาเข้มแข็ง ไม่มีใครเอาชนะได้ แต่เมื่อตัดสินใจที่จะห่างเหินจากเธอ

ความเสื่อมถอยก็เริ่มมาเยือนเขาพ่ายแพ้ และถูกเนรเทศไปเกาะเซนต์เฮเลนา

อับราฮัม ลินคอล์น

เป็นตัวอย่างของผู้นำที่ประสบความสำเร็จจากการค้นพบจินตนาการสร้างสรรค์และนำมันไปใช้ประโยชน์

เป็นที่น่าสังเกตว่าหนังสือทุกเล่มที่เขียนเกี่ยวกับลินคอล์น มักพูดถึงประสบการณ์แห่งรักที่เขามีเมื่อพบกับ

แอนน์ รัตเลดจ์ เขาได้ค้นพบมันและนำไปใช้ประโยชน์ มันเป็นมากกว่าข้อมูลประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ

เพราะมันคือการเชื่อมโยงบทบาทของสัมพันธภาพทางเพศที่มีต่ออัจฉริยภาพ

ต่อไปนี้เป็นรายนามของบุรุษผู้มีชื่อเสียงที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้น 


  • จอร์จ วอชิงตัน 
  • นโปเลียน โบนาปาร์ต 
  • วิลเลียม เช็กสเปียร์ 
  • อับราฮัม ลินคอล์น 
  • ราล์ฟ วัลโด อีเมอร์สัน 
  • โรเบิร์ต เบิร์น 
  • โทมัส เจฟเฟอร์สัน 
  • อัลเบิร์ต เอช. แกรี่ 
  • วูดโรว์ วิลสัน 
  • จอห์น เอช. แพตเตอร์สัน 
  • แอนดรูว์ แจ็คสัน 
  • เอนริโก คารูโซ 


มีหลักฐานความเชื่อมโยงระหว่างชีวิตและความสำเร็จของบุคคลเหล่านี้

โดยแต่ละท่านล้วนได้ครอบครองธรรมชาติแห่งกามารมณ์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างสูงยิ่ง

การวิเคราะห์ข้อมูลชีวประวัติได้นำไปสู่ข้อสรุปดังนี้

1. ผู้ที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ไม่เพียงแต่พัฒนาธรรมชาติแห่งเพศ

2. คนที่สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยหรือประสบความสำเร็จในด้านวรรณกรรม ศิลปะ อุตสาหกรรม

อารมณ์นี้ผลักดันให้พวกเขามีพลังใจอันยิ่งใหญ่ที่จะทำในสิ่งต่างๆ ถ้าได้เข้าใจในสิ่งนี้แล้ว

คุณย่อมเข้าใจว่าทำไมการแปรสภาพกามารมณ์จึงเป็นที่มาของศักยภาพในการสร้างสรรค์

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่มีพลังทางเพศสูงจะเป็นอัจฉริยะไปหมด

พวกเขาสร้างอัจฉริยภาพด้วยการกระตุ้นจิตใจผ่านความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นตัวกระตุ้นหรือแรงจูงใจที่สำคัญที่สุด

แต่ลำพังพลังทางเพศอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอที่จะสร้างอัจฉริยภาพ

ก่อนที่จะเกิดอัจฉริยภาพพลังนี้ต้องแปรสภาพความปรารถนาการสัมผัสทางกายภาพไปสู่ความปรารถนา

รูปแบบอื่นและเป็นการปฏิบัติเสียก่อน จึงจะสามารถยกระดับผู้ใดผู้หนึ่งไปสู่อัจฉริยภาพได้

แต่ยังได้เรียนรู้ศิลปะแห่งการแปรสภาพพลังแห่งกามารมณ์อีกด้วย

สถาปัตยกรรม มักได้รับอิทธิพลและแรงจูงใจจากคนรัก

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Value Indentity

Value Indentity "อัตลักษณ์เชิงคุณค่าของตัวคุณ"

  คนที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในโลกนี้ ต้องมีอัตลักษณ์เชิงคุณค่าที่สามารถสร้างความแตกต่างได้จากนั้นใช้ความแตกต่างนั้นสร้างความสำเร็จผ่านการเสียสละบางอย่างเพื่อสิ่งที่ดีกว่าสำหรับผู้อื่น
     เพราะความสำเร็จของคนเรานั้นเกิดจากการช่วยให้ผู้คนจำนวนมากพอให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้น ถ้าคุณต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืน คุณต้องส่งมอบคุณค่าเพื่อช่วยให้ผู้อื่นได้ในสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดนั่นเอง

   จงจำไว้ว่า หัวใจของการอยู่อย่างผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ได้วัดว่าใครมีรายได้สูงกว่าใคร แต่วัดจากความเสียสละบางอย่างเพื่อสิ่งที่ดีกว่าสำหรับผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจสร้างชีวิตแบบพวกเราความยิ่งใหญ่ในฐานะผู้นำอยู่ตรงที่คุณเคยเสียสละอะไรบ้าง คุณเคยสร้างสรรค์อะไรที่บ่งชี้ถึงการยกมาตรฐานของทีม ขององค์กรและของแบรนด์บ้าง
คุณเคยสนับสนุนใครที่ตัดสินใจมาอยู่กับคุณด้วยความหวังและมุ่งมั่นตั้งใจอย่างรักษาคำมั่นสัญญาหรือไม่ คุณเคยจริงใจกับคนอื่นหรือไม่ คุณได้ทำหน้าที่ด้วยใจรักผู้อื่น เพื่อให้การกระทำของคุณมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนไปในด้านบวกหรือไม่ คุณได้ทำอย่างทุ่มเท ทำอย่างดีที่สุด ณ ขณะนี้และจะทำให้ดีกว่าในวันต่อๆไปหรือไม่ หรือคุณตั้งเป้าอยู่ให้สบายตัวที่สุด ทำน้อยให้ได้มากที่สุด โกยเงินให้ได้มากที่สุด คุณกำลังเลือกเป็นคนแบบไหนอย

พื่อนๆครับ ไม่ว่าคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ผมขอเป็นกำลังใจให้คุณลุกขึ้นมายืนหยัดด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดีของคนรุ่นต่อๆไป ด้วยการยืนหยัดสร้างความแตกต่าง เป็นคนมีอัตลักษณ์เชิงคุณค่าที่เสียสละบางอย่างเพื่อสิ่งที่ดีกว่าสำหรับผู้อื่น ผมเชื่อมั่นว่า เมื่อช่วยให้ผู้อื่นมีชีวิตที่ดีขึ้นได้มากเท่าไหร่ ชีวิตของคุณก็จะยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้นครับ

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Prepare For Win


"ความอยากที่จะชนะนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ถ้าไม่มีความอยากที่จะเตรียมตัวเพื่อให้ชนะ"

การสร้างทุกสิ่งในโลกใบนี้ ล้วนต้องมีขั้นตอนของการเตรียมตัวอย่างดีเป็นองค์ประกอบสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมทีมกีฬาให้พร้อม การเตรียมวัตถุดิบไว้ผลิต การเตรียมตัวสอบ เตรียมตัวสอนและเตรียมพื้นที่สำหรับเพาะปลูก

ดังนั้น หากคุณต้องการความสำเร็จ สิ่งแรกที่คุณต้องทำก่อนก็คือการเตรียมตัวเพื่อความสำเร็จ อย่าคาดหวังว่าจะต้องได้ความสำเร็จโดยคุณไม่ต้องปรับเตรียมอะไรเลย จงจัดเวลาและสมาธิสำหรับการเตรียมตัว ซึ่งประกอบด้วยการเตรียมร่างกาย เตรียมจิตใจ เตรียมความรู้ เตรียมแผนงานและเตรียมแผนพิชิตอุปสรรคปัญหา เมื่อคุณเตรียมสิ่งนี้ได้ดีและต่อเนื่อง เท่ากับว่าคุณได้ดูแลงานสำคัญที่เป็นต้นเหตุของความสำเร็จให้อยู่ในการควบคุมของคุณแล้ว ผลลัพธ์ที่คุณต้องการก็จะเกิดตามมา

เพื่อนๆครับ คนส่วนใหญ่ล้วนมีความอยากที่จะชนะชีวิต แต่มักไม่มีความอยากที่จะเตรียมตัวเพื่อให้ชนะ จงจำไว้ว่า ถ้าคุณยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี มันยังทันที่คุณจะเริ่มต้นใหม่อย่างเข้าใจวิธีการสร้าง จงใส่ความอยากที่จะเตรียมตัวให้แรงพอๆกับความอยากที่จะสร้างผลลัพธ์ เพราะความอยากที่จะชนะอย่างเดียวไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ถ้าคุณไม่มีความอยากที่จะเตรียมตัวเพื่อให้เป็นผู้ชนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หายนะของความคิดเชิงลบ และพลังแห่งศรัทธา

 

    จิตใต้สำนึกของเราไม่แยกแยะระหว่างความคิดที่สร้างสรรค์และทำลายล้าง มันจะทำงานตามสิ่งที่เราใส่ให้มัน ซึ่งก็คือความคิดนั่นเอง จิตใต้สำนึกจะแปรเปลี่ยนความคิดที่เจือปนด้วยความกลัวไปสู่ความเป็นจริง และจะแปรเปลี่ยนความคิดที่แฝงไว้ด้วยกล้าหาญหรือศรัทธาไปสู่ความเป็นจริงด้วยเช่นกัน เหมือนกระแสไฟฟ้าที่เดินเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม ถ้าเราใช้อย่างถูกวิธีก็จะมีประโยชน์  แต่ถ้าใช้ผิดวิธี เครื่องจักรอาจพังพินาศ เช่นเดียวกันกับกฎแห่งการเสนอแนะตัวเอง ซึ่งจะนำสันติสุขและความมั่งคั่งร่ำรวยมาให้คุณ หรือนำคุณไปสู่ความล้มเหลว สิ้นหวัง และหมดสิ้นทุกอย่างก็ได้ ทั้งหมดนี้ขึ้นกับความรู้ ความเข้าใจ และการรู้จักนำมันไปใช้

    ถ้าจิตใจของคุณเต็มไปด้วยความคาดหวัง สงสัยและไม่เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองในการนำเอาพลังงานอัจฉริยภาพแห่งจักรวาลมาใช้  คุณก็จะไม่สามารถใช้พลังงานนั้นได้  กฎของการเสนอแนะตัวเองจะนำพาความไม่เชื่อและความสงสัยให้จิตใต้สำนึกแปรเปลี่ยนมันให้กลายเป็นจริง เหมือนกระแสลมที่พัดพาเรือลำหนึ่งไปทางตะวันออก แต่พัดพาเรืออีกลำไปตะวันตก

     กฎแห่งการเสนอแนะตัวเองนั้นจะยกระดับคุณขึ้นหรือลงก็ได้ ซึ่งเป็นไปตามวิถีความคิดของคุณเอง
กฎแห่งการเสนอแนะตัวเอง ทำให้บางคนยกระดับตัวเองไปสู่ความสำเร็จได้

เหมือนอย่างที่บทกวีนี้ได้พรรณนาไว้ โปรดสังเกตการใช้ถ้อยคำแล้วคุณจะเข้าใจความหมายลึกซึ้ง

ถ้าคุณ คิด ว่าคุณล้มเหลว คุณก็จะเป็นตามนั้น
ถ้าคุณ คิด ว่าคุณไม่กล้า คุณก็จะไม่กล้า
ถ้าคุณอยากจะชนะ แต่กลับ คิด ว่าตัวเองไม่สามารถชนะได้
ก็ค่อนข้างแน่นอนว่าคุณจะไม่ชนะ
ถ้าคุณ คิด  ว่าคุณจะพ่ายแพ้ คุณก็แพ้
เหนือสิ่งอื่นใดที่เราค้นพบ
ความสำเร็จเริ่มต้นจากความตั้งใจ
และทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ ในใจของเรานี่เอง
ถ้าคุณ คิด ว่าตัวเองเหนือชั้น คุณก็เป็นเช่นนั้น
คุณต้อง คิด ให้ไกลและไปให้ถึง
คุณต้อง มั่นใจในตัวเอง ก่อน จึงจะได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จ
สงครามชีวิตไม่ได้มุ่งสู่ผู้ที่เข้มแข็งกว่า และรวดเร็วกว่าเสมอไป
เพราะไม่ช้าก็เร็วผู้ชนะที่แท้จริงก็คือ คนที่ คิด ว่าเขาทำได้ 

     ถ้าคุณปรารถนาพลังแห่งศรัทธานี้ จงเรียนรู้จากผู้ที่เปี่ยมด้วยศรัทธาและประสบความสำเร็จ  พื้นฐานของคริสเตียนคือความเชื่อ อาจมีผู้คนมากมายเข้าใจพลังอันยิ่งใหญ่ผิดไป  แต่มหัศจรรย์แห่งคำสั่งสอนและความสำเร็จของพระคริสต์นั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าศรัทธา

     ถ้ามีปรากฏการณ์แห่งความอัศจรรย์แก่จิตใจก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากศรัทธาทั้งสิ้น  มหาตมะคานธี ของอินเดีย  เป็นหนึ่งในตัวอย่างอันน่าอัศจรรย์ของศรัทธาคานธีใช้พลังอำนาจได้มากกว่าผู้ใดในยุคสมัยเดียวกัน และเขามีพลังอำนาจ ทั้งๆที่เขาไม่มีเครื่องมือแห่งอำนาจเหมือนคนทั่วๆไป เช่น เงินทอง อาวุธ
กำลังทหารและยุทธปัจจัย คานธีไม่มีเงิน ไม่มีแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ แต่เขามีพลัง

      พลังอำนาจของเขามาจากไหนกัน? เขาสรรค์สร้างมันมาจากความเข้าใจในหลักการแห่งศรัทธา และผ่านศักยภาพของเขาในการที่จะปลูกฝังศรัทธานั้นเข้าไปในจิตใจและผู้คนสองร้อยล้านคน  คานธีสร้างศรัทธาที่น่าอัศจรรย์ทำให้คนสองร้อยล้านคนรวมตัวกัน   และขับเคลื่อนไปสู่ชาติด้วยน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

จะมีพลังอื่นใดในโลกทำเช่นนี้ได้นอกจากศรัทธา?

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อุปสรรคเพียงครั้งคราว แต่ความสำเร็จอยู่นาน


หนึ่งในสาเหตุของความล้มเหลวที่พบบ่อยที่สุดคือ การที่คนเราพบอุปสรรคแล้วท้อถอยไปเสียก่อน  ทั้งๆที่จริงแล้วอุปสรรคนั้นอยู่แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น 

      เมื่อเกิดความผิดพลาดเพียงครั้งหรือสองครั้งแรกก็ทำให้ทุกคนรู้สึกผิด  ระหว่างยุคตื่นทองของสหรัฐอเมริกา บุรุษชื่อ อาร์.ยู.ดาร์บี้ ก็มีคุณลุงที่เป็นโรคตื่นทองเหมือนกัน  เขารีบเดินทางไปฝั่งตะวันตกที่โคโลราโด เพื่อไปขุดทองคำและคาดหวังว่าจะร่ำรวย   เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนเราสามารถขุดทองได้จากความคิดของเราเอง  ซึ่งอาจมีมูลค่ามากกว่าขุดจากพื้นดินเสียอีก เขาขอสิทธิ์ในการขุดทองคำ
แล้วจึงเริ่มเข้าไปทำงานขุดและร่อนทอง


    หลังจากทำงานได้หลายสัปดาห์ เขาได้รับรางวัลแห่งความพยายามคือ ขุดพบแร่ทองคำเหลืองอร่ามเขารีบปิดเหมืองทองเล็กๆของเขา  โดยไม่บอกให้ใครรู้และกลับไปบ้านเกิดที่วิลเลียมเบิร์ก รัฐแมรีแลนด์เขาบอกกับญาติและเพื่อนบ้านบางคนถึงการค้นพบทองคำ  พวกเขาได้รวบรวมเงินกันเพื่อสร้างเหมืองขุดเจาะทองคำ อาร์.ยู.ดาร์บี้ ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับลุงของเขา  และรีบกลับไปทำงานที่เหมืองต่อ

     หลุมแรกถูกขุด เมื่อได้ทองคำแล้วก็ส่งไปหลอม  ผลตอบแทนที่ได้กลับมาพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในเจ้าของเหมืองทองคำที่รวยที่สุดในโคโลราโด  ถ้าเขาเจอทองคำอีกสักสองสามหลุม นอกจากจะล้างหนี้สินได้ทั้งหมดแล้วยังสามารถสร้างผลกำไรได้มหาศาล  ยิ่งขุดลึกลงไปเท่าไหร่ ความหวังของดาร์บี้และลุงของเขายิ่งมากขึ้นเท่านั้น

      แต่แล้วก็มีบางสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นคือ เมื่อขุดต่อไปกลับไม่พบแร่ทองคำอีกเลย ความหวังพังทลายลง เขาพยายามขุดต่อไปอีกแต่ก็ยังไม่พบทองคำ  ในที่สุดพวกเขาตัดสินใจที่จะหยุด  เขาขายเหมืองทองคำนั้นต่อให้พ่อค้าซื้อขายของเก่าคนหนึ่งในราคาเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์  แล้วนั่งรถไฟกลับบ้าน

      ภายหลังพ่อค้าคนนั้นได้ขอคำปรึกษาจากวิศวกรพบว่า  โครงการนี้ล้มเหลวเพราะเจ้าของเหมืองไม่คุ้นเคยกับเส้นทางของสายแร่ทองคำ จากการคำนวณ วิศวกรบอกว่าแหล่งแร่ทองคำอยู่ห่างออกไปแค่ 3 ฟุต จากจุดที่ดาร์บี้หยุดขุด  เหมืองแร่ทองคำนั้นได้ทำเงินให้พ่อค้าคนนั้นนับล้านดอลลาร์  เพียงเพราะเขารู้ว่าควรจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนจะล้มเลิกความตั้งใจ

      หลังจากนั้น  ดาร์บี้ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะเอาเงินทุนกลับคืนมา เขาค้นพบว่าปณิธานสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินทองได้  การเข้าสู่ธุรกิจขายประกันชีวิตทำให้เขาค้นพบตัวเอง  อย่าลืมว่าเขาสูญเสียโชคลาภไปเพราะว่าหยุดไปเสียก่อน ทั้งๆที่อีก 3 ฟุตก็จะถึงทองคำ ดาร์บี้ได้กำไรงามจากงานใหม่ เขาพูดกับตัวเองว่า

 “ผมเคยหยุดขุดทั้งๆที่อีก 3 ฟุตก็จะถึงทองคำ  ดังนั้นเวลาขยายประกัน ผมจึงไม่เคยหยุดขายเมื่อลูกค้าตอบว่า ‘ไม่’”

     ดาร์บี้ได้กลายเป็นหนึ่งในนักขายไม่กี่คนที่ทำยอดขายประกันชีวิตได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี  เขายึดมั่นต่อบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากการล้มเลิกกลางคันในการทำธุรกิจเหมืองทองคำ

ในชีวิตจริงก่อนที่ความสำเร็จจะมาถึง เราต้องไม่หวั่นไหนต่อความล้มเหลวที่เป็นเพียงครั้งคราว

     หรือบางครั้งอาจต้องพบความพ่ายแพ้บ้าง แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ความล้มเหลวเอาชนะจิตใจเราได้
เราจะทำสิ่งที่มีเหตุผลที่สุดและง่ายที่สุดก็คือ ล้มเลิกมันไปเสีย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งซึ่งคนส่วนใหญ่ทำกัน

มีผู้ที่ประสบความสำเร็จมากกว่า 500 คนในสหรัฐอเมริกา เคยบอกไว้ว่าความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มักรออยู่
หลังจากจุดซึ่งเขาพบกับความพ่ายแพ้แค่หนึ่งก้าว ความล้มเหลวจะหลอกลวงเราด้วยการเยาะเย้ยถากถาง  มันชอบทำให้คุณสะดุดล้มเมื่อใกล้จะถึงความสำเร็จอยู่แล้ว

   คุณต้องอดทนเพื่อก้าวไปให้ถึงความสำเร็จ   และผมมีวีดีโอหนึ่งฝากไว้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ได้อ่านบทความถึงตอนนี้ครับ   ขอให้ทุกคนมีกำลังใจเพื่อดำเนินชีวิตต่อไปครับ  แล้วพบกันใหม่  สวัสดี

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ ไม่ต้องพึ่งประสบการณ์

 

   นับแต่อดีตเป็นต้นมาหลายครั้งที่ค่านิยมถูกนำไปผูกติดกับความเชื่อในแบบผิดๆ ซึ่งมักบังคับช่องทางการทำธุรกิจให้แคบลงอยู่เสมอ ความเชื่อเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเอาเสียเลยในปัจจุบัน เพราะดูเหมือนจะเป็นการไปจำกัดความก้าวหน้าอย่างสิ้นเชิงสำหรับนักธุรกิจสายเลือดใหม่ โดยหนึ่งในความเชื่อที่เป็นข้อผูกมัดให้ไม่อาจทำให้เริ่มธุรกิจใหม่ได้ก็คือความเชื่อเรื่องประสบการณ์ ซึ่งมักได้รับการบอกกล่าวจากรุ่นสู่รุ่นว่าธุรกิจเป็นเรื่องของประสบการณ์ ผู้ใดไม่มีประสบการณ์ก็อย่าริอ่านไปทำธุรกิจโดยเด็ดขาด Timothy Ericson ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท CityRyde ได้ให้แนวทางที่จะปฏิวัติความคิดเรื่องประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจอีกต่อไป ดังต่อไปนี้

การมองหาความต้องการของตลาดเป็นสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่พึงจะต้องกระทำ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับสิ่งประดิษฐ์และบริการ เพราะต้องเข้าใจในพื้นฐานของคนเราที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน และเชื่อเถอะว่าไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการใดสามารถตอบสนองความต้องการได้ครบและครอบคลุมทุกกลุ่มผู้บริโภคได้ ดังนั้นสิ่งนี้คือช่องทางและโอกาสทองของผู้ประกอบการมือใหม่ที่ต้องจับตลาดความต้องการของผู้บริโภคที่มักเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ และทำผลิตภัณฑ์ออกมาตอบสนองความต้องการในส่วนดังกล่าวให้จงได้ ซึ่งแนวทางนี้ไม่ต้องใช้ประสบการณ์เลยแม้แต่น้อย ที่ต้องใช้คือการทำวิจัยดีๆ ต่างหาก

ผู้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจหลายคนส่วนมากก็ไม่ได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจมาก่อน เพียงแต่พวกเขามีมุมมองอันชาญฉลาดและรู้ว่าธุรกิจอะไรควรลงไปแข่ง ธุรกิจอะไรควรเว้นวรรค หรือที่เรียกว่าการประเมินโอกาสทางธุรกิจนั่นเอง วิธีการประเมินธุรกิจเบื้องต้นที่ง่ายที่สุดคือการประเมินศักยภาพของธุรกิจของตนเองและกลุ่มตลาดเป้าหมาย ตัวอย่างคือ พิจารณาปัจจัยทางความพร้อม บุคลากร เงินทุน การบริหาร บวกกับแนวทางการเติบโตของกลุ่มเป้าหมายที่จะลงไปจับ คู่แข่ง ความต้องการหลักของผู้บริโภค เมื่อนำปัจจัยทั้ง 2 ด้านมาวิเคราะห์ประกอบกันแล้วก็จะรู้เองว่าธุรกิจดังกล่าวมีความน่าลงทุนขนาดไหนที่จะส่งผลิตภัณฑ์และบริการลงไปแข่งด้วย จึงจะเรียกว่าเป็นการทำธุรกิจอย่างชาญฉลาดที่มีแต่ได้มากกว่าเสียนั่นเอง

ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดจุดด้อยในเรื่องการขาดประสบการณ์ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะกับบริษัทหน้าใหม่ๆ คำถามที่มักพบเป็นประจำเมื่อเวลาไปขายงานต่อหน้าลูกค้าคือ หากไม่มีประสบการณ์อะไรเลยแล้วสิ่งไหนจะมาเป็นตัวช่วยบ่งชี้ว่าคุณจะทำงานให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่นำเสนอมาได้ ผู้ประกอบการหลายรายเมื่อได้ฟังคำถามนี้ก็แทบตกเก้าอี้เพราะไม่สามารถตอบคำถามที่ยิงมาจากปากลูกค้าได้ ทางออกของปัญหาดังกล่าวคือสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นในกรอบการดำเนินงานของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนเงินทุนสำรอง ยอดหมุนเวียนในกระแสเงินสด และที่สำคัญคือประวัติการทำงานที่ผ่านมาของบริษัทต้องไม่มีข้อผิดพลาดจนถูกฟ้องร้องหรือความล้มเหลวที่เกิดขึ้นจากการทำงานโดยเด็ดขาด เรียกได้ว่าทำประวัติการทำงานของบริษัทให้เนียนเข้าไว้จะช่วยทดแทนจุดด้อยในเรื่องของการขาดประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี

เพราะความที่ยังไม่มีประสบการณ์จึงต้องอาศัยความทุ่มเทและการประหยัดมัธยัสถ์เป็นหลัก ด้วยการไปศึกษาหาข้อมูลและคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจที่ให้บริการฟรีในรูปแบบเครือข่ายอย่างในโลกสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ที่มักให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจแบบฟรีๆ ไม่เสียเงินเลยสักบาท บางครั้งอาจช่วยพิจารณาการวางแผนธุรกิจและช่วยกระจายข้อมูลในเรื่องการทำงานให้ด้วย ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือในลักษณะของมิตรภาพที่ไม่อาจตีราคาได้ นอกจากนี้การศึกษาหาข้อมูลการทำธุรกิจจากห้องสมุดต่างๆ และการเข้าอบรมสัมมนาทางวิชาการตามมหาวิทยาลัยก็เป็นวิธีการช่วยเพิ่มความรู้ได้ดีอีกวิธีหนึ่ง

ผู้เริ่มประกอบธุรกิจในช่วงแรกต่างรู้ดีว่าเงินทุนเป็นสิ่งมีค่ามากที่สุด การใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษหรือเรียกง่ายๆ ว่าการประหยัดนั่นเอง โดยหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยลดรายจ่ายได้เป็นอย่างดีคือ การใช้งานอินเทอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจสามารถค้นหาจากทางโลกออนไลน์ได้แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการเขียนแผนทางธุรกิจ การดาวน์โหลดเอกสาร และที่สำคัญคือสถิติต่างๆ ที่มีเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตก็มีอยู่เป็นจำนวนมากและฟรีอีกด้วย หากไปว่าจ้างบริษัทรับทำสำรวจจะเสียค่าใช้จ่ายแพงมาก และไม่คุ้มค่าสำหรับบริษัทที่เพิ่งเปิดใหม่ด้วย

เครื่องมือที่สำคัญที่สุดของผู้ประกอบการในการลดปัญหาที่เกิดจากการขาดประสบการณ์ทางธุรกิจก็คือใช้จุดแข็งเข้าต่อสู้ ผู้ประกอบการจะต้องสำรวจตนเองก่อนว่ามีจุดแข็งในเรื่องอะไรที่จะสามารถไปต่อกรกับคู่แข่งบนท้องตลาดได้ อาจเป็นราคาที่ถูกกว่า คุณสมบัติที่ดีกว่า ฯลฯ แล้วพัฒนาเครื่องมือดังกล่าวนำมาใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้กับคู่แข่งที่มักอ้างเรื่องประสบการณ์เป็นจุดเด่น ซึ่งการใช้จุดแข็งของธุรกิจเข้ามาต่อสู้นี้ต้องใช้ทักษะส่วนตัวของผู้ประกอบการค่อนข้างมากในการบริหารจัดการให้ตรงกับยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้

• • •

ประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ประกอบการจะหาซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อทั่วไปและส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นการค้นหาจุดแข็งในด้านอื่นๆ เพื่อนำมาทดแทนจุดด้อยดังกล่าวจึงเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึง "กึ๋น" ในการบริหารจัดการของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ตัวชี้วัดความสำเร็จต้นทางที่สามารถทำนายอนาคตของคุณได้


“ดัชนีตัวชี้วัดความสำเร็จต้นทางที่สามารถทำนายอนาคตของคุณได้”

   สวัสดีครับ วันนี้  ผมจะแบ่งปันในส่วนของปัจจัยต้นทางที่เป็นตัวกำหนดความสำเร็จของตัวคุณ ซึ่งผมขอเรียกว่าดัชนีตัวชี้วัดต้นทาง  ซึ่งเมื่อคุณทำความเข้าใจเรื่องนี้แล้ว คุณก็จะสามารถทำนายผลลัพธ์ชีวิตของตัวคุณรวมถึงผลลัพธ์ของทุกคนในองค์กรของคุณได้  แม้ว่าปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวทำนายผลที่แม่นยำ แต่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามและไม่ละเอียดอ่อนพอที่จะใส่ใจ  ปัจจัยที่ผมกำลังหมายถึง นั่นก็คือ กระบวนการเรียนรู้ ฝึกฝน พัฒนาตนเอง  กิจกรรมที่คุณเลือกทำและอารมณ์ระหว่างวันที่อยู่กับตัวคุณ  ทั้งสามปัจจัยนี้ เป็นตัวชี้เป็นชี้ตายต่อผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น หากผลลัพธ์ที่คุณต้องการคือความสำเร็จที่มากกว่า คุณจำเป็นต้องเข้าใจและกำกับดูแลทั้งสามปัจจัย ดังนี้

          1.การเรียนรู้และพัฒนาตนเองรายสัปดาห์ 

               มนุษย์ทุกคนที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน  ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่เก่งในสาขาอาชีพนั้นๆ   และคนเก่งส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นจากคนไม่เก่งมาก่อน  แต่เขามีการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง  จนกลายเป็นคนเก่งในที่สุด

          ดังนั้น หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจซัคเซสมอร์  คนต้องเข้าเรียนรู้ อ่านหนังสือ เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจนคุณเก่งขึ้นๆในทุกๆสัปดาห์  เมื่อเก่งขึ้น คุณจะสามารถสร้างผลงานได้มากขึ้นและยังสามารถดูแลสอนงานคนในองค์กรได้ดีขึ้นอีกด้วย  ความสำเร็จของคุณก็จะถูกยกระดับให้สูงขึ้นตามลำดับ  ซึ่งการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตนเองรายสัปดาห์  สามารถทำนายถึงระดับความสำเร็จที่คุณจะได้รับ

       2.กิจกรรมที่คุณเลือกทำในแต่ละวัน

        คุณและผม ต่างมีภารกิจมากมายที่ต้องทำและต้องรับผิดชอบ แต่ทว่าทุกๆกิจกรรมที่คุณทำในแต่ละวัน มีคุณค่าต่อการเคลื่อนตัวคุณไปสู่เป้าหมายที่แตกต่างกัน  ดังนั้น ตัวชี้ขาดความสำเร็จของคุณจึงไม่ได้วัดจากการที่คุณทำมากหรือทำน้อย ประเด็นหลักอยู่ตรงที่ คุณได้ทำในกิจกรรมหรือเนื้องานที่ใช่หรือไม่  สิ่งที่ใช่ของคุณกับของผมไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เพราะเราอาจมีเป้าหมายหรือสิ่งที่ต้องการจริงๆไม่เหมือนกัน

        จงจำไว้ว่า หากคุณต้องการมีผลลัพธ์ที่ดี คุณต้องออกแบบกิจกรรมหรือเนื้องานในแต่ละวันให้สอดคล้องกับเป้าหมายของคุณ เช่นเนื้องานเกี่ยวกับการแบ่งปันโอกาส  การแนะนำสินค้า  การสอนงาน การโค้ชชิ่ง  การเคลื่อนบัตรงานต่างๆ  การสร้างสายสัมพันธ์กับคนในองค์กร  การกำกับดูแลองค์กร การจัดประชุมและการเรียนรู้ทั้งจากการเข้าอบรม การฟังซีดี การอ่านหนังสือและการพูดคุยกับผู้รู้  หากเป้าหมายของคุณคือการประสบความสำเร็จในระดับสูง  คุณก็ต้องทำกิจกรรมต่างๆที่ว่ามาอย่างเข้มข้น  ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายที่คุณต้องการ  ถ้าคุณใช้เวลาอยู่กับกิจกรรมเหล่านี้อย่างมีวินัย  คุณก็สามารถทำนายผลความก้าวหน้าของคุณได้อย่างแน่นอน  ในทางตรงกันข้าม  ถ้าคุณใช้เวลาตลอดวันตลอดเดือนของคุณกับกิจกรรมอื่นที่นอกเหนือจากนี้  คุณก็สามารถทำนายผลได้ล่วงหน้าเลยว่าเป้าหมายของคุณจะไม่บรรลุอย่างแน่นอนเช่นเดียวกัน

3.อารมณ์ที่คุณใช้ชีวิตหรือทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน

         ในหลักการสร้างความสำเร็จของมนุษย์นั้น อารมณ์ยิ่งใหญ่กว่าเหตุผลเป็นร้อยเท่า เพราะอารมณ์เป็นเรื่องเดียวกันกับพลังในตัวคุณ   แม้ว่าคุณจะออกแบบและเลือกกิจกรรมที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณออกไปทำกิจกรรมแบบซังกะตาย ฝืนใจสุดๆเหมือนถูกพ่อแม่บังคับ  คุณจะไม่มีวันที่จะทำสิ่งนั้นได้ดี  จงจำไว้ว่า หากในแต่ละวันคุณมีแต่อารมณ์กลัว ห่อเหี่ยว หดหู่ เหนื่อยหน่ายและสิ้นหวัง คุณจะไม่มีวันที่จะสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้ ในทางตรงกันข้าม หากคุณสามารถทำให้ตัวคุณอยู่ในสภาวะเปี่ยมพลัง มีความตื่นเต้น กระตือรือร้น กระปรี้กระเปร่า สดใส มีความรักความปรารถนาดีและมีความหวัง คุณก็จะสามารถออกไปทำกิจกรรมที่ใช่อย่างมีเสน่ห์ จนทำให้ผู้อื่นสัมผัสถึงพลังและเสน่ห์ในตัวคุณได้ ซึ่งก็จะส่งผลทำให้การทำงานในแต่ละวันของคุณมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น  และเป็นสิ่งที่คุณสามารถทำนายผลลัพธ์ทั้งของตัวคุณและของทีมงานได้ล่วงหน้าเช่นเดียวกัน

      ท่านผู้อ่านคับ ความสำเร็จในชีวิตของคุณ คุณต้องเป็นผู้รับผิดชอบ หากวันนี้ชีวิตยังเดินทางมาไม่ถึงจุดที่คุณต้องการจริงๆ  จงให้เวลาสำหรับการนั่งทบทวนถึงการลงทุนเรื่องการเรียนรู้พัฒนาตนเองของคุณ กิจกรรมรายวัน  รายสัปดาห์ของคุณ และอารมณ์ที่คุณทำกิจกรรมเหล่านั้นในแต่ละวัน  ปรับเปลี่ยนบางสิ่ง บางมุม บางอารมณ์ ด้วยหัวใจที่เปิดรับ ผมเชื่อมั่นว่า ชีวิตของคุณจะไปได้ไกลกว่านี้อีก เพราะทั้งการเรียนรู้ กิจกรรมและอารมณ์ เป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จที่ต้นทางครับ

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พลังแห่งความฝันอันยิ่งใหญ่

    ถ้าคุณตกอยู่ในสนามการแข่งขันทางการเงิน  ต้องทราบข้อเท็จจริงก่อนว่า  โลกที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้ต้องการความคิดใหม่ ไอเดียใหม่ วิธีการใหม่ ผู้นำใหม่ นวัตกรรมใหม่  รูปแบบใหม่  รุ่นใหม่  มีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ  อยู่ตลอดเวลา  เพราะเบื้องหลังความต้องการของที่ใหม่กว่าและดีกว่า  มีสิ่งหนึ่งที่คุณต้องมีเพื่อจะได้รับชัยชนะ  สิ่งนั้นก็คือการกำหนดเป้าหมายที่แน่นอน  คุณต้องรู้ว่าตนเองต้องการอะไร  และมีปณิธานอันแรงกล้าที่จะไปให้ถึงเป้าหมายนั้น

    ถ้าคุณมีปณิธานที่จะร่ำรวย   จงจำไว้ว่าผู้นำที่แท้จริงในโลกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลซึ่งสามารถควบคุมและนำพลังแห่งโอกาสซึ่งมองไม่เห็น  จับต้องไม่ได้  มาใช้ให้เกิดประโยชน์  ผู้นำเป็นบุคคลที่เปลี่ยนโอกาสไปเป็นเมือง  ตึกระฟ้า  โรงงาน  อุตสาหกรรม  ระบบขนส่งมวลชน  สถานบันเทิง  และทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างความสะดวกสบาย  ทำให้ทุกสิ่งง่ายขึ้น  เร็วขึ้น  ดีขึ้น  หรือทำให้ชีวิตสุขสบายขึ้น

    ในการวางแผนไปสู่ความร่ำรวยนั้น  อย่ายอมให้ใครมาทำลายความเป็นนักล่าฝันของคุณ  การที่จะชนะเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงนั้นคุณต้องเข้าให้ถึงจิตวิญญานของผู้บุกเบิกที่ยิ่งใหญ่  ผู้ซึ่งความฝันของเขามีคุณค่าต่อการสร้างสรรค์วัฒนธรรม  จิตวิญญานของผู้บุกเบิกนี้เปรียบเสมือนเลือดที่หล่อเลี้ยงประเทศของเรา  มันให้โอกาสทั้งคุณและผมที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเอง

   แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง บริษัท อาลีบาบากรุ๊ป  เห็นความจริงคือ ประเทศจีนเป็นโรงงานของโลก  เขามีความคิดว่า อยากช่วยขยายฐานลูกค้า ธุรกิจ SME ของประเทศจีน ให้ถึงคนทั่วโลกโดย e-commerce  โดยเขาตั้งปณิธานอันยิ่งใหญ่ไว้ "ให้ใต้หล้า ทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น"  จากคนที่ไม่รู้เรื่องไอที เขาฝ่าฝันด้วยจิตวิญญานและปณิธานที่ยิ่งใหญ่  ร่วมกับทีมงานชุด 18 อรหันต์  ใช้เวลา 10 ปี ก่อตั้งบริษัทที่คนทั่วโลกต้องจดจำ อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่แห่งวงการ B2B (business to business)

     ถ้าคุณยังสงสัยในความจริงข้อนี้  หรือเมื่อไม่นานมานี้คุณรู้สึกแย่เพราะได้ประสบกับความล้มเหลว  คุณกำลังจะได้เรียนรู้ว่าความล้มเหลวสามารถแปรเปลี่ยน เป็นทรัพย์มีค่าได้อย่างไร  เกือบทุกคนที่ประสบความสำเร็จใจชีวิตล้วนต้องผ่านจุดเริ่มต้นที่เลวร้ายมาก่อน   แต่ด้วยใจที่ต่อสู้  ไม่ย่อท้อ  จึงทำให้เขาผ่านจุดนั้นมาได้  จุดเปลี่ยนในชีวิตของผู้ที่ประสบความสำเร็จมักเกิดจากการที่เขาต้องเผชิญ  กับวิกฤตการณ์ด้วยตัวเอง

    มีการกล่าวถึงแนวคิดของ  นโปเลียน  ฮิลล์  ในเรื่องที่เกี่ยวกับ "ตัวตนที่แท้จริง"  ในหนังสือ  คิดแล้วรวยอยู่หลายแห่ง  แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดไว้มากนัก  ต่อไปนี้เป็นบทความที่เขาเคยเขียนไว้

     คุณอาจจะเคยมีความคิดว่า   ความล้มเหลวทำให้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง  ยิ่งคุณคิดอย่างนี้มากเท่าไร  ก็ยิ่งมีโอกาสล้มเหลวมากขึ้นเท่านั้น  จงหยุดความคิดเหล่านี้เสีย  แล้วคิดใหม่ว่าแท้ที่จริงคุณกำลังได้ประโยชน์จากประสบการณ์ของคุณ   ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเผชิญกับอุปสรรคอะไรก็ตาม  ควรมองอีกมุมหนึ่งว่า  คุณจะไม่สนใจอุปสรรคนั้น  และไม่คำนึงถึงความพ่ายแพ้  นอกจากนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม  คุรควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น  และเลือกที่จะร่วมงานกับคนที่มีเป้าหมายเหมือนกัน  ปรัชญาและคำแนะนำในการโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นจะช่วยคุณได้มาก  ถ้ารู้จักนำมันไปใช้

   โทมัน  เอดิสัน  ใฝ่ฝันถึงการสร้างหลอดไฟซึ่งใช้พลังงานจากไฟฟ้า   เขาได้เริ่มสร้างฝันให้เป็นจริง  เอดิสันต้องประสบความล้มเหลวมากกว่า  10,000 ครั้ง  แต่ทั้งๆ ที่ล้มเหลว  ก็ยังยืนหยัดในความฝัน  จนในที่สุดเขาก็ค้นภพอัจฉริยภาพที่ซ่อนอยู่ในสมองของเขา

    ผลงานของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน  แต่เรื่องราวของความสำเร็จนั้นคล้ายกันคือ  เริ่มจากความคิดฝัน  แล้วก็ล้มเหลว  เกิดบทเรียนและเกิดการเรียนรู้จนประสบความสำเร็จในที่สุด  ไม่ว่าจะเป็นเฮนรี่  ฟอร์ด  โทมัน  เอดิสัน  แจ็ค หม่า  สตีฟ จ๊อบส์  บ๊อบ ดีลแลน  ล้วนแล้วแต่ได้พิสูจน์ว่ากฏข้อปฎิบัตินี้ใช้ได้เสมอ 

   การที่เราอยากจะได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น  แตกต่างจากการเตรียมตัวเองให้พร้อมที่จะได้สิ่งนั้นมา   ไม่มีใครพร้อมสำหรับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนกว่าเขาจะเชื่อในศักยภาพของตัวเองเสียก่อน  ไม่เพียงแต่หวังหรือต้องการเท่านั้น  แต่ต้องมีความเชื่อในจิตใจด้วย  การเปิดใจสำคัญมากสำหรับความเชื่อ  การที่เราใจแคบนั้นจะทำให้เราไม่เกิดศรัทธา  แรงกระตุ้น  และความเชื่อ

   จงจำไว้ว่า  การที่เราพยายามหวังสูงเพื่อที่จะมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองนั้น  ดีกว่าการที่จะต้องพยายามยอมรับความทุกข์ยากและความยากไร้  ดังเช่นบทกว่าที่กล่าวถึงสัจธรรมข้อนี้ไว้ว่า :

  ฉันต่อรองขอเงินหนึ่งเพนนีกับชะตาชีวิตของตัวเอง  
แต่ไม่เคยได้
    ตอนเย็นฉันอ้อนวอนขอ 
 เพราะไม่มีอะไรเหลือแล้ว

     ชะตาชีวิตเป็นเพียงนายจ้างของเรา
     ชะตาชีวิตจะให้สิ่งที่เราขอ
     ต่อเมื่อเราทำงานให้เท่านั้น
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องทำงานหนัก

ฉันจึงยอมทำงานรับใช้
เพียงเพื่อจะได้เรียนรู้ว่า
ทุกสิ่งที่ฉันลงทุนลงแรงทำไปนั้น
ชะตาชีวิตพร้อมจะจ่ายค่าแรงคืนให้เสมอ


   

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ปิดทางถอยของตัวเอง เพื่อคว้าชัยชนะ

นานมาแล้ว  มีนักรบผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งต้องเผชิญสถานการณ์เลวร้าย  เนื่องจากต้องยกทัพเข้าต่อสู้กับศัตรูซึ่งมีกำลังมากกว่า  เขามุ่งมั่นว่าจะต้องชนะสงครามครั้งนี้ให้ได้  เมื่อเดินทางถึงดินแดนศัตรู และได้ลำเลียงทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ออกจากเรือแล้ว  จึงได้สั่งให้เผาเรือทิ้ง  ก่อนจะรบ  เขาได้ประกาศกับไพร่พลว่า

    "พวกเจ้าคงเห็นเรือที่กำลังลุกไหม้แล้ว  พวกเราจะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ถ้าเราไม่ชนะ ไม่มีทางเลือกแล้ว  พวกเราจะชนะหรือจะยอมตายอยู่ที่นี่"

   ในที่สุดพวกเขาก็ชนะ!!!

    ทุกคนที่เอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ต้องปิดทุกหนทางที่จะถอยหนี  นี่คือหลักจิตวิทยาในการ  กระตุ้นปณิธาน  ของตัวเองเพื่อชัยชนะ

     เช้าวันหนึ่งหลังจากเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในชิคาโก้(อเมริกา)  เจ้าของร้านค้ากลุ่มหนึ่งกำลังเฝ้ามองดูกลุ่มควันจากซากร้านค้าของพวกเขา  และปรึกษากันว่าจะพยายามฟื้นฟูร้านค้าขึ้นมาใหม่  หรือจะย้ายออกไปจากชิคาโก้แล้วไปเริ่มชีวิตใหม่ที่เมืองอื่นดี  สุดท้ายพวกเขาตัดสินใจจะย้าย  ยกเว้นอยู่คนเดียว เขาคือเจ้าของร้านที่ตัดสินใจอยู่โดยจะสร้างร้านค้าขึ้นมาใหม่  เขาชี้ตรงบริเวณเดิมของร้านแล้วพูดว่า "ทุกคนจงฟัง  ผมจะสร้างห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ตรงนี้  ไม่ว่าจะถูกไฟไหม้อีกกี่ครั้งก็ตามที"

    นั่นคือเหตุการณ์เมื่อปี ค.ศ. 1871  เขาสร้างร้านค้านั้นขึ้นมาใหม่และยังคงอยู่จนทุกวันนี้  ห้างสรรพสินค้ามาร์แซลล์ฟิลด์  เป็นอนุสรณ์สถานแห่งปณิธานอันแรงกล้า  มาร์แซลล์  ฟิลด์  แตกต่างจากพ่อค้าคนอื่นๆ  ตรงที่  เมื่อเผชิญกับความยากลำบากและอนาคตที่มืดมน  เขาจะลุกขึ้นแล้วมองโลกในแง่ดี

    โปรดสังเกตความแตกต่างระหว่างมาร์แซลล์  ฟิลด์  กับเข้าของร้านค้าคนอื่นๆ เพราะความแตกต่างนี้เองทำให้คนที่ประสบความสำเร็จถูกแยกออกจากกับคนที่ล้มเหลว

    เมื่อเราอายุมากขึ้นจนรู้คุณค่าของเงิน  ก็ย่อมต้องการได้เงินกันทุกคน  แต่ลำพังแค่ความต้องการนี้ไม่ได้ทำให้เราร่ำรวยขึ้น  การที่เราคิดถึงปณิธานซ้ำๆ  ในการที่จะสร้างความร่ำรวยร่วมกับการวางแผนที่ดีจะทำให้เราร่ำรวย  จงกำหนดวิธีการที่คุณต้องใช้เพื่อฝ่าฟันกับอุปสรรค  มุ่งมั่นกับแผนงานเพื่อปิดทางที่จะทำให้ตัวคุณเองล้มเหลว

ข้อคิด คำคม : Think 2 Rich

     “ความคิดของคุณทำให้คุณตกอยู่ในปัญหา ก็ความคิดของคุณนั่นแหละ ที่จะทำให้คุณออกมาจากปัญหาได้”

           คนที่เจออุปสรรคจากเหตุการณ์ในชีวิตแบบเดียวกัน  แต่ไม่เสมอไปที่จะรู้สึกว่าเป็นปัญหาเหมือนกัน บางคนยิ่งเจออุปสรรค ยิ่งฮึดสู้ บางคนเจอแล้วถอดใจ จงจำไว้ว่า เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณมีค่าเป็นกลางเสมอ มันขึ้นอยู่กับความคิดของคุณว่าจะตีความหมายไปทางด้านไหน  หากคุณตีความไปด้านที่เป็นปัญหา เป็นตัวเหนี่ยวรั้ง คุณก็จะไม่มีพลังที่จะไปต่อ ในทางตรงกันข้าม หากคุณเปลี่ยนมุมมองความคิด คิดไปในด้านที่เป็นโอกาสแห่งความท้าทาย  มองว่าปัญหาเป็นเรื่องชั่วคราว และมองให้เห็นหนทางที่จะไปต่อ คุณก็จะมีพลังเคลื่อนไปข้างหน้าได้ มันเป็นสิทธิ์ในการเลือกที่จะคิดของคุณ

  “เมื่อใดก็ตาม ที่คุณได้เห็นคนผู้หนึ่งประสบความสำเร็จ นั่นแสดงว่าเขาได้กระทำการตัดสินใจที่กล้าหาญแล้ว”

        ทุกๆความสำเร็จที่ใครก็ตามสร้างขึ้นมาได้ ย่อมต้องเกิดจากการตัดสินใจที่กล้าหาญว่า จะยินดียืนหยัดเพื่อก้าวผ่านอุปสรรคปัญหาที่ขวางกั้น เพราะหากคุณไม่ตัดสินใจที่จะสำเร็จ คุณก็จะไม่มีวันที่จะมีความมุ่งมั่นทุ่มเท คุณจะมีข้ออ้าง ข้อแม้เต็มไปหมด ดังนั้น เมื่อคุณเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ ขอให้เชื่อว่าคุณก็ประสบความสำเร็จได้ ขอเพียงคุณตัดสินใจอย่างกล้าหาญเช่นเดียวกับเขา

“ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเห็น เริ่มต้นมาจากความคิดในหัวของใครสักคน”

     ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ล้วนแล้วแต่เกิดจากการสร้างสองครั้งเสมอ  ครั้งที่หนึ่งสร้างในจินตนาการ โดยมีความชัดเจนในใจ จดจ่อมองเห็นภาพและรู้สึกถึงมัน  และครั้งที่สองคือการลงมือทำให้มันกลายเป็นจริง ดังนั้น หากคุณต้องการบรรลุเป้าหมาย คุณจึงต้องเริ่มต้นอย่างมีจุดหมายที่ชัดเจนภายในก่อน มองให้เห็นภาพ ฟังให้ได้ยินเสียงและเข้าให้ถึงอารมณ์ความรู้สึก จากนั้นลงมือทำอย่างเข้มข้น คุณก็จะสร้างสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นในโลกภายนอกได้

พฤติกรรมของผู้นำที่มีประสิทธิภาพ

   วันนี้จะว่ากันถึงเรื่องพฤติกรรมของผู้นำที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับคุณ ระหว่างอ่านไป  ขอให้ประเมินตนไปด้วยว่า ในแต่ละพฤติกรรมที่ระบุไว้  มันมีอยู่ในตัวคุณมากน้อยแค่ไหน  เชิญติดตามได้เลยครับ

       ว่ากันว่าระดับความสำเร็จของคุณ   ขึ้นอยู่กับระดับความเป็นผู้นำของตัวคุณ  ซึ่งแต่ละระดับที่คุณจะก้าวขึ้นไป  ก็ต้องมีคุณสมบัติบางอย่างที่เพิ่มขึ้นจากเดิม  ดังนั้น พัฒนาการของการเป็นผู้นำ จึงเริ่มจากพื้นฐานบางเรื่องที่คุณต้องมีความเด่น   จนคุณก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับกลางและก้าวต่อไปจนเป็นผู้นำระดับสูง   ซึ่งคนที่จะเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพนั้น  จะต้องมีความเก่งในสามเรื่องหลักๆ   ได้แก่  ความฉลาดเรื่องคน  มองโลกในแง่ดีและเป็นมืออาชีพ  ในฉบับนี้  ผมจะขยายความเกี่ยวกับความเก่งทั้งสามด้านของผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำก่อน  ดังนี้ครับ

-ความฉลาดเรื่องคน 

      คนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้  ต้องมีทักษะในเรื่องคน  ซึ่งความเก่งด้านนี้มี  3 ส่วนหลักๆได้แก่

      1.รู้จักตนเอง 

     รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตนเอง  รู้ถึงจุดแข็งจุดอ่อนและรู้ว่าตัวคุณมีผลต่อผู้อื่นอย่างไร คุณต้องรู้จักที่จะนำจุดแข็งมาใช้ในการสร้างผลงานและพัฒนาจุดแข็งของคุณให้เด่นชัดยิ่งขึ้นจนมีความแตกต่างจากผู้อื่นอย่างชัดเจน  ในขณะเดียวกัน  จงระมัระวังจุดอ่อนของคุณ  อย่าให้มันสร้างความเสียหายต่องาน ต่อผู้อื่นและต่อองค์กร  ในขณะเดียวกัน  คุณต้องหาทางลดจุดอ่อนที่สำคัญๆโดยเฉพาะจุดอ่อนในเชิงบุคลิกภาพ  พร้อมๆกับการทำให้ตัวคุณอยู่ในเนื้องานที่คุณได้ใช้จุดแข็งเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้คนและต่อองค์กรให้ได้มากที่สุด

      2. รู้จักคนอื่น

          คนแต่ละคนมีบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน  มีจุดอ่อนจุดแข็งที่ไม่เหมือนกัน   มีความฝัน  มีแรงบันดาลใจที่แตกต่าง   มีความเข้าใจเรื่องราวเร็วช้าต่างกัน  อีกทั้งมีค่านิยม  มีวิถีการดำรงชีวิตและช่องทางการรับข่าวสารทางรูป รส กลิ่น เสียงและ สัมผัสที่แตกต่าง  ถ้าคุณเข้าใจและรู้จักคนอื่นในแง่มุมเหล่านี้  คุณก็จะสร้างอิทธิพลเหนือคนอื่นได้  นอกจากนั้น  คุณยังต้องรู้จักใช้จุดแข็งของคนอื่นมาช่วยสร้างสรรค์งาน และหาทางพัฒนาอย่าให้จุดอ่อนของคนอื่นทำให้งานเสียหาย

 3.รู้จักวิธีขายความคิดหรือโน้มน้าวจูงใจผู้อื่น

          คนที่จะเป็นผู้นำ  ต้องเก่งในการสื่อสัมพันธ์กับผู้คน  เพื่อให้คนที่อยู่ในฐานะเป็นลูกน้อง เป็นดาวน์ไลน์ เพื่อนร่วมงาน เป็นไซด์ไลน์ หรือเป็นผู้บังคับบัญชาหรือเป็นอัพไลน์  เห็นด้วยและสนับสนุน  รวมถึงการทำให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่มีพลัง  ซึ่งต้องใช้ความเก่งในด้านรู้จักคนอื่นและมีทักษะด้านการสื่อสารที่ดีประกอบกัน

-มองโลกในแง่ดี

        ผู้นำที่ดีจะต้องมีมุมมองต่อโลกในเชิงบวก  ไม่ใช่คนประเภทคิดลบ  จับผิดหรือกรองสิ่งผิดก่อนเสมอ  ซึ่งการเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี  จะต้องเป็นคนที่มีพื้นฐานของการเป็นคนมีความหวังในชีวิต  มีแรงผลักดัน  มีความยืดหยุ่นที่เหมาะสมในการใช้ชีวิต  มองหาทางออกของปัญหา  ไม่ใช่นั่งทับปัญหา  รู้จักเก็บอารมณ์  มองเห็นโอกาสในวิกฤติ  มีความเข้าใจความเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่ง  มีมุมมองต่อปัญหาว่าเป็นเรื่องที่แก้ไขได้  ไม่ใช่เรื่องถาวรตลอดไป  รู้จักแยกแยะว่าอะไรคือสิ่งที่เราควบคุมได้และ อะไรเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเรา และจดจ่อไปยังปัจจัยที่เราเป็นผู้ควบคุม  ซึ่งในที่สุด จะส่งผลให้ปัญหาที่เราควบคุมไม่ได้ลดน้อยลง

-มีความเป็นมืออาชีพ

     คนที่เริ่มยกระดับสู่การเป็นผู้นำ  จะมีคนประเมินให้คะแนนว่าจะยอมรับให้นำหรือไม่อยู่ตลอดเวลา   ดังนั้น  จึงจำเป็นต้องแสดงบางสิ่งบางอย่างที่บ่งบอกความเป็นมืออาชีพออกมา ตั้งแต่การเรียนรู้จนเข้าใจธุรกิจที่คุณทำอย่างแตกฉาน  พูดจาแสดงออกถึงความรู้จริง ไม่พูดมั่วๆหรือไร้แก่นสาร เรียนรู้การนำอย่างถูกต้อง  รู้ว่าการนำเริ่มต้นจากการยอมรับในบุคลิกภาพทั้งภายในและภายนอก    คุณเป็นคนดูแลตัวเองดีหรือเปล่า  นิสัยใจคอเป็นอย่างไร  มีจิตใจที่ให้ความเป็นธรรมแก่คนอื่น  หรือเอารัดเอาเปรียบ  นิสัยแบ่งปันหรือเห็นแก่ตัว  ไว้วางใจได้แค่ไหน  นอกจากเรื่องบุคลิกภาพแล้ว  คุณยังจำเป็นต้องเป็นคนมีความสามารถและมีผลงานด้วย  ไม่ใช่เก่งแต่พูด หรือหน้าตาดี จิตใจดีอย่างเดียว

    ดังนั้น  จงจำไว้ว่า   หากคุณต้องการไต่ระดับบันไดผู้นำ  ขอให้เริ่มไต่ด้วยการวางรากฐานที่แข็งแรงก่อน  รากฐานที่แข็งแรงของผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ  ก็เกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดที่ผมได้แบ่งปันไปข้างต้น  อยากเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพจริง  กลับไปอ่านทวนอีกรอบนะครับ  ผมมั่นใจว่าคุณจะสามารถเป็นผู้นำที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ขั้นตอนสู่ความสำเร็จที่คนสำเร็จทั่วโลกใช้กัน

ขั้นตอนสู่ความสำเร็จที่คนสำเร็จทั่วโลกใช้กัน และเป็นขั้นตอนที่ถ้าใครทำตามนี้อย่างต่อเนื่อง รับประกันว่า สำเร็จอย่างแน่นอน เชิญติดตามอ่านเลยนะครับ

 นตอนที่ 1 รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ

          คนสำเร็จทุกคนต้องเริ่มที่ขั้นตอนนี้ก่อน นั่นคือรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรจริงๆ  เพราะบางสิ่งที่คุณคิดว่าคุณต้องการ แต่ลึกๆแล้วคุณไม่ได้ต้องการมันจริงๆ  คุณก็จะไม่ยอมแลก ไม่ยอมจ่ายราคา  คุณมักจะไปทำอีกอย่างที่ไม่เกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายที่คุณบอกว่าคุณต้องการ  ดังนั้น  โปรดถามใจตัวเองดูให้แน่นอนเสียก่อนว่า อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ
จากนั้น มองให้เห็นภาพของการบรรลุสิ่งนั้น  เข้าให้ถึงอารมณ์ความรู้สึกว่าได้ครอบครองแล้วและฟังให้ได้ยินเสียงที่บอกกับตัวเองเมื่อคุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ

ขั้นตอนที่ 2  หากลวิธีในการทำ

           ทุกๆเป้าหมาย ล้วนแล้วแต่มีกลวิธีที่นำพาคุณไปสู่เป้าหมาย  คุณต้องหากลวิธีจากคนที่ทำสำเร็จมาก่อนเป็นพื้นฐาน  จากนั้นปรับเปลี่ยนให้มันเหมาะกับกาลเวลาและเหมาะกับตัวคุณ  อย่าข้ามขั้นตอนนี้ไปสู่การลงมือทำเลย  เพราะถ้าข้ามขั้นตอนนี้ ไป นั่นก็หมายถึงคุณลงมือทำแบบมั่วๆ  ทำให้คุณเหนื่อยแต่จับแก่นสารอะไรไม่ได้เลย

ขั้นตอนที่ 3 ลงมือทำ

         คนสำเร็จทุกคนต้องมีความสามารถในการทำให้ตัวเองลงมือทำได้อย่างสม่ำเสมอ  ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง  ไม่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ  เป็นคนที่มีวินัยในการลงมือทำ  เพราะถ้าคุณไม่ลงมือทำ  คุณก็จะไม่ได้ระยะทาง  และไม่ได้บทเรียนเพื่อปรับแก้ในเชิงปฏิบัติ  คุณจะยังคงนั่งหวังผลเลิศอยู่  จนทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์  ดังนั้น  คุณจึงต้องกล้าๆลงมือทำอย่างทุ่มเทและต่อเนื่อง  เพื่อให้รู้กันไปเลย  ถ้าได้ผล  ก็ลุยต่อแบบมีกำลังใจ  ถ้าไม่ได้ผล  ก็ปรับปรุงปรับเปลี่ยนเพื่อไปต่อ  การสร้างความสำเร็จ  มันมีเพียงแค่นี้จริงๆ  ไม่มีอะไรซับซ้อน

 -ขั้นตอนที่ รู้ว่าคุณกำลังได้รับผลลัพธ์อะไรอยู่

            เมื่อคุณลงมือทำไปแล้ว  คุณต้องสามารถประเมินรู้ว่าวิธีที่คุณใช้  พลังที่คุณใส่เข้าไป  มันกำลังให้ผลอะไร
ถ้าได้ผลเป็นการพาคุณเข้าใกล้เป้าหมายที่คุณต้องการจริงๆ  ก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว  แต่ถ้ามันไม่ทำให้คุณขยับไปข้างหน้าเลย  คุณก็ต้องนั่งวิเคราะห์เพื่อหาให้เจอว่า  มีตรงไหนที่มันยังไม่ใช่  เพื่อปรับเปลี่ยนให้มันใช่  ถ้าประเมินได้เร็ว  คุณก็จะปรับเปลี่ยนได้เร็ว  ทำให้คุณไม่เสียเวลา  ไม่สูญเสียทรัพยากรและไม่เสียกำลังใจมากเกินไป

-ขั้นตอนที่ ปรับเปลี่ยนกลวิธีและลงมือทำใหม่

            เมื่อคุณประเมินแล้ว  หากกลวิธีเดิมที่คุณใช้อยู่  ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการได้  คุณก็ต้องหาทางปรับเปลี่ยนกลวิธีใหม่  และลงมือทำอีกครั้ง   เมื่อลงมือทำด้วยกลวิธีใหม่แล้ว  คุณก็ประเมินอีกเพื่อให้รู้อยู่ตลอดเวลาว่า กลวิธีที่ใช้อยู่ของคุณได้ผลหรือไม่ได้ผล


        หากคุณต้องการประสบความสำเร็จจริงๆ   ไม่ต้องไปหาเทคนิคพิศดารที่ไหน  ขอให้คุณทำตาม  5 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จที่เศรษฐีทั่วโลกเขาใช้กัน   ทำให้เป็นนิสัยและเป็นวินัยแห่งการสร้างชีวิต  ผมมั่นใจว่าคุณจะเป็นเจ้าของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอนครับ

วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558

5 เคล็ดลับเพื่อความสำเร็จในการขาย

5 เคล็ดลับเพื่อความสำเร็จในการขาย

1. คนซื้อคนก่อนสินค้า

         มีคนขายสินค้าหรือขายโอกาสทางธุรกิจแบบเดียวกับคุณอยู่เต็มไปหมดในตลาด  ผู้มุ่งหวังมีทางเลือกมากมายในการซื้อและเขาจะซื้อจากคนที่เขารู้สึกดีเท่านั้น  ซึ่งผู้มุ่งหวังจะประเมินคนขายจากบุคลิกภาพ  ความรู้ ความชำนาญ ความเข้าใจที่มีต่อเขา การมีบางสิ่งบางอย่างที่ชอบเหมือนกัน การนำเสนอได้ตรงจุดโดนใจ และสัมผัสแห่งความไว้วางใจ   ดังนั้น  สินค้าตัวแรกที่คุณต้องขายให้ได้ก่อนก็คือตัวคุณนั่นเอง

2. คนไม่ได้ซื้อสินค้า  แต่คนซื้อประโยชน์จากสินค้า

            ผู้มุ่งหวังหรือลูกค้าไม่ได้ต้องการตัวสินค้า แต่ต้องการประโยชน์จากการใช้สินค้านั้นๆ   เขาไม่ได้ซื้อสว่านเจาะ แต่เขาซื้อรูที่สว่านเจาะ   ซึ่งประโยชน์จากการใช้สินค้าที่ลูกค้าต้องการนั้น มี 2 ประเภท  คือประโยชน์จากการใช้งานหรือบริโภคสินค้านั้นๆ และประโยชน์เชิงอารมณ์ความรู้สึก   ดังนั้น หากคุณนำเสนอโดยให้ข้อมูลที่ชัดเจน จนเขาเข้าใจ มองเห็นภาพและเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึก อัตราตอบรับในการขายของคุณก็จะสูงขึ้นครับ

3. คนประเมินข้อมูลด้วยเหตุผล แต่ตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์

       เมื่อคุณนำเสนอการขายต่อผู้มุ่งหวัง   ระหว่างฟังคุณนำเสนอ เขาจะเก็บข้อมูลและประเมินผลด้วยหลักเหตุและผล  แต่ลำพังเพียงหลักเหตุและผลไม่สามารถทำให้ผู้มุ่งหวังทำการตัดสินใจซื้อจากคุณได้   คุณจำเป็นต้องเชื่อมต่อไปถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้มุ่งหวัง   ทำให้เขาเกิดความรู้สึกชอบ พอใจ ภูมิใจ มีความหวังและมีความสุขให้ได้   เมื่อไหร่ที่คุณเคลื่อนอารมณ์ของผู้มุ่งหวังมาสู่อารมณ์พึงพอใจต่อตัวเขาเอง ต่อตัวคุณและต่อตัวสินค้าได้   เมื่อนั้นการตัดสินใจซื้อจากคุณก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่าครับ

4. คนที่ไม่ซื้อวันนี้ ไม่ได้หมายถึงจะไม่ซื้อตลอดชีวิต

       ผู้มุ่งหวังที่ไม่ตัดสินใจซื้อจากคุณในวันนี้ เกิดจากหลายสาเหตุ              ตั้งแต่ยังไม่มีเงินจริงๆ   ไม่ต้องการสิ่งที่คุณนำเสนอ  หรือไม่เชื่อมั่นในตัวคุณ    อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะปฏิเสธด้วยเหตุความเป็นจริงประการใดก็แล้วแต่ สิ่งที่คุณต้องจำไว้ก็คือ   เขาไม่ซื้อวันนี้ ไม่ได้หมายถึงจะไม่ซื้อตลอดชีวิต  ในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไป ชีวิตของเขาอาจมีการเปลี่ยนแปลง   ดังนั้น  หน้าที่สำคัญของคุณก็คือ การทำให้ตัวคุณเป็นนักขายหรือนักธุรกิจมืออาชีพ และยังคงติดตามเขาอย่างเหมาะสม คุณก็จะมีสิทธิชนะใจเขาได้ในไม่วันใดก็วันหนึ่งคับ

5. การขายเป็นเรื่องเดียวกันกับการทำให้คนมีความหวังและเกิดความเชื่อมั่น

       ในขณะที่คุณนำเสนอการขายนั้น หมายถึงคุณกำลังอยู่ในกระบวนการของการทำให้ผู้มุ่งหวังเกิดความหวังที่จะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเขา หรือครอบครัวของเขา   ไม่ว่าจะเป็นความหวังที่เขาจะสวยขึ้น ดูดีขึ้น มีเงินมากขึ้น สุขภาพดีขึ้น มีเกียรติมากขึ้น   รวมไปถึงการมีความสุขมากขึ้น   และ เมื่อคุณทำให้เขามีความหวังแล้ว คุณยังต้องทำให้เขาเกิดความเชื่อมั่นด้วยว่า   การตัดสินใจซื้อจากคุณ จะช่วยให้ความหวังในชีวิตเขาเป็นจริงได้  

   หากคุณทำกระบวนการเคล็ดลับนี้ได้อย่างสมบรูณ์   คุณก็จะสามารถเป็นนักขายผู้ยิ่งใหญ่ได้ครับ.

การสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนทุกระดับ

การสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนทุกระดับ

การสร้างความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายตามที่คุณต้องการนั้น   ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญสูงสุดที่ชี้ขาดความสำเร็จในระยะยาวของคุณเลยทีเดียว   ดังนั้น   วันนี้  Think 2 Rich    จะขอแบ่งปันหลักการในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนทุกระดับ   เพื่อติดอาวุธทางปัญญาที่สำคัญและจำเป็นต่อการสร้างองค์กรขนาดใหญ่    ดังนั้น   หากคุณต้องการเป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อผู้อื่น    นี่คือบทความที่คุณต้องอ่านครับ

ผู้อ่านครับ   การที่คุณจะทำเรื่องอะไรก็แล้วแต่ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี   คุณต้องประเมินให้ออกว่าหัวใจสำคัญของเรื่องนั้นๆคืออะไร  และในเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็เช่นเดียวกัน  หัวใจของสร้างความสัมพันธ์คือการให้ความสำคัญกับผู้อื่น  ทั้งนี้เป็นเพราะการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี  เริ่มต้นขึ้นเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าเขามีคุณค่า และมนุษย์แปลความหมายการเป็นคนสำคัญกับการเป็นคนมีคุณค่านั้นเป็นเรื่องเดียวกัน
เมื่อคุณเข้าใจหลักการหัวใจและแนวคิดการทำให้คนอื่นรู้สึกมีคุณค่าแล้ว   ต่อไปก็ต้องมาเรียนรู้วิธีการสร้างความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวกัน   คุณจะสร้างความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวกันได้อย่างไร   มีเพียงคำตอบเดียว  นั่นก็คือการทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าเขามีคุณค่า  โดยการทำสิ่งต่อไปนี้ครับ

-การเป็นผู้ฟังที่ดีเวลาอยู่กับผู้อื่น    ซึ่งจะทำให้คุณรู้ว่าพวกเขาให้คุณค่าหรือความสำคัญกับเรื่องอะไรบ้าง  อย่าเป็นผู้พูดขาดการสนทนา  เล่าแต่เรื่องของตัวคุณเองโดยไม่ฟังข้อมูลของคนอื่น  เมื่อคุณเป็นผู้ฟังที่ดี  คุณก็จะรู้ว่าบางคนให้คุณค่าและความสำคัญเกี่ยวกับการมีรายได้ที่มากขึ้น  การดูแลรับผิดชอบชีวิตของคนที่เขารัก  การท่องเที่ยว  สุขภาพ  การมีสังคมที่ดี  การได้รับเกียรติ  หรือการพัฒนาตนเอง   เมื่อคุณจับประเด็นที่ผู้อื่นให้คุณค่าได้  คุณก็ก็จะสามารถออกแบบการสนทนาได้ตรงใจ  ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างคุณกับเขาจะทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิผล

-การซักถามเพื่อค้นหาว่าทำไมพวกเขาจึงให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านั้น

      การซักถามเพิ่มเติมในแนวนี้  จะทำให้คุณเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของเขาได้ง่ายขึ้น   เพราะคำตอบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่มนุษย์ให้คุณค่าจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก ความผูกพันและความภักดีเสมอ

-การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือความเชื่อที่คุณกับเขามีคล้ายๆกัน

    หลักการพูดคุยเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ที่สำคัญคือ คุณต้องไม่คุยในเรื่องที่คุณกับเขามีความเชื่อที่แตกต่างกัน มองหาจุดร่วมให้เจอ แล้วขยายผลความสัมพันธ์จากความเชื่อที่คล้ายๆกัน   ในที่สุด ความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคุณกับเขาก็จะเกิดขึ้น

-การสร้างความสัมพันธ์จากการมีความเชื่อที่ตรงกัน

   เมื่อคุณค้นพบความเชื่อที่ตรงกันแล้ว   เมื่อคุณใช้เรื่องราวความเชื่อนั้นๆพูดคุยให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น คุณจะได้รับความรู้สึกดีๆจากเขา  ในที่สุด ก็จะพัฒนาจนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน   ดังนั้น  หากคุณใช้ครบทั้ง 4 หลักการในการพูดคุยเพื่อสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น   คุณก็จะสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสื่อสัมพันธ์ที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกดีต่อตัวเองและรู้สึกดีต่อตัวคุณ  จนนำไปสู่การอยู่ร่วมกันเพราะต้องการอยู่เลยทีเดียวครับ

ความคิด : 9 พื้นฐานสำคัญสู่ความสำเร็จในชีวิต

 “ความคิด 9 พื้นฐานสำคัญสู่ความสำเร็จในชีวิต“ 


    1.จงทำให้ตัวคุณหลงใหลในธุรกิจ
           หากคุณรักในธุรกิจที่คุณทำจนถึงขั้นหลงใหล  คุณจะมีความรู้สึกดีกับตัวคุณเอง  กับคนที่คุณเกี่ยวข้องด้วยในธุรกิจคุณจะรู้สึกดีต่อบริษัท  ต่อสินค้า  ต่อกิจกรรมที่จัดขึ้นมาและต่อเนื้องานที่คุณทำในแต่ละวัน   ลองคิดถึงอารมณ์แห่งความหลงใหลบางสิ่งบางอย่างที่ผ่านมาของคุณดู  คุณจะยอมให้เวลากับสิ่งนั้นอย่างไม่รู้สึกเหนื่อย  คุณมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้  เมื่อได้ทำในสิ่งนั้นๆ   คุณจะยอมทุ่มเทพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นและเก่งขึ้น  คุณไม่เคยรู้สึกฝืนใจ มีแต่อารมณ์ความต้องการและถวิลหาที่จะทำ  ถ้าคุณทำให้ตัวเองหลงใหลในธุรกิจได้  คุณก็จะมีพลังในการขับเคลื่อนแบบสุดๆไปเลย

 2.จงตัดสินใจให้แน่นอนว่า คุณต้องการอะไร
       การตัดสินใจให้แน่นอนว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ  จะทำให้คุณมีทิศทางและความชัดเจน  ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญที่จะทำให้คุณเตรียมการ  ยอมทุ่มเทและยืนหยัดจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย

3.จงหนุนเป้าหมายด้วยการไม่ยอมแพ้และมุ่งมั่น
       เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว  คุณต้องยืนหยัดโดยการทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องทำเพื่อให้คุณเคลื่อนไปข้างหน้า
การที่คุณไม่ยอมแพ้และยังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง  ถือเป็นอุปนิสัยสำคัญที่จะส่งเสริมให้คุณประสบความสำเร็จ

4.จงทุ่มเทให้กับการเรียนรู้ตลอดชีวิต
       คนทุกคนในโลกใบนี้  ยังมีสิ่งที่ควรเรียนรู้อีกมากมาย  หากต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่  คุณจึงควรเรียนรู้ในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความสำเร็จของชีวิตของคุณอย่างต่อเนื่อง  เมื่อคุณยกระดับความสามารถของตนเอง  คุณก็จะส่งมอบคุณค่าให้แก่ผู้อื่นได้มากขึ้นและความสำเร็จของคุณก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

5.จงใช้เวลาของคุณอย่างคุ้มค่า
       ทุกคนได้รับเวลามาเท่ากันต่อวัน  หากคุณใช้เวลาอย่างไม่คุ้มค่า  ใช้ไปกับกิจกรรมที่ไม่ส่งเสริมความก้าวหน้าให้กับตัวคุณ
คุณจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต  ดังนั้น  คุณจึงต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด  จงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับกิจกรรมที่ทำให้คุณเคลื่อนที่ไปเข้าใกล้เป้าหมายของคุณทุกๆวัน

6.จงทำตามผู้นำ
     คุณต้องเลือกผู้นำที่เป็นแบบอย่างแห่งความสำเร็จในดวงใจของคุณ  จากนั้นจงทำตามผู้นำ ทั้งการคิด  การพูด การใช้เวลาและการลงมือทำ  เพื่อให้คุณสามารถกลายเป็นผู้นำรุ่นถัดไปและมีคนอื่นมองคุณเป็นต้นแบบต่อไป

7.บุคลิกลักษณะคือทุกสิ่งทุกอย่าง
        คุณลักษณะในตัวคุณที่แสดงออกมาเป็นบุคลิกเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในตัวคุณ  คุณมีบุคลิกลักษณะที่น่าเชื่อถือหรือไม่  ไว้วางใจได้ขนาดไหน  มีความซื่อสัตย์หรือไม่  เป็นผู้ฟังที่ดีระดับไหน  ใจสู้หรือเปล่า ล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างความสำเร็จของตัวคุณทั้งสิ้น

8.ยิ่งให้ ยิ่งได้รับ
     หากคุณเป็นผู้ให้ก่อน  คุณย่อมได้ใจคน  ในที่สุดคุณย่อมได้รับกลับ  หากคุณจ้องจะเอาจากคนอื่น  ก็จะไม่มีใครทนอยู่กับคุณได้นาน

9.ยอมจ่ายราคา
      คุณต้องจ่ายราคาในรูปของการมุ่งมั่นเรียนรู้  การลงมือทำงานหนัก  การยืนหยัด การพัฒนาอุปนิสัยที่ดี และการเอาชนะอุปสรรคปัญหาที่ท้าทายคุณ   หากคุณไม่ยอมจ่ายสิ่งเหล่านี้ก่อน  คุณก็จะไม่ได้รับการคืนกลับในรูปของความสำเร็จ

     ลองให้คะแนนตัวคุณเองแบบไม่เข้าข้างดูครับว่า  ถ้าแต่ละพื้นฐานสำคัญคะแนนเต็มสิบ  คุณให้คะแนนตัวเองข้อละกี่คะแนนครับ

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความสำเร็จเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงตนเอง


"ความสำเร็จเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงตนเอง"
คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ต้องการความสำเร็จ แต่มักคว้ามันมาไม่ได้ เพราะเริ่มต้นผิดจุด เรามักคิดว่าแค่วางแผนแล้วทำตามแผนให้ได้ผลงานก็เพียงพอ แต่แท้ที่จริงแล้ว ความสำเร็จเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงตัวคุณเอง
จงจำไว้ว่า คนที่คุณเป็นสำคัญกว่าวิธีทำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ คุณต้องเป็นคนที่ผู้คนไว้วางใจ ต้องเป็นคนที่มีความเป็นธรรมในหัวใจ ต้องเป็นคนที่ให้บางสิ่งแก่ผู้อื่นได้ และต้องเป็นคนที่ทุ่มเท มีนิสัยพัฒนาตนและไม่เอาเปรียบคนอื่น จึงจะรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้คนได้ ไม่ใช่อยู่กับการแก้ปัญหาระยะสั้น วนเวียนไม่รู้จบสิ้น
เพื่อนๆครับ เราทุกคนต่างมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้ตัวเองมีรายได้มากกว่ารายจ่าย จนถึงขั้นมีเงินเก็บ จงอย่าอยู่กับการดิ้นรน จงมีสติ หันมาจดจ่อกับการดูแลตัวคนที่คุณเป็นและรวบรวมความกล้าหาญเพื่อออกไปส่งมอบคุณค่า ให้บางสิ่งแก่คนอื่น แล้วคุณก็จะได้รับกลับอย่างยิ่งใหญ่แน่นอนครับ

ทุนเรียนต่อเมืองนอก

E-Book แนะนำ รองรับโทรศัพท์มือถือ


กรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิพิเศษ