วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

วิธีระดมความคิดที่ใช้ได้ผลดีที่สุด


วิธีระดมความคิดที่ใช้ได้ผลดีที่สุด

การระดมความคิดคือการจับกลุ่มกัน และให้ทุกคนเสนอความคิดของตนเองเพื่อจุดมุ่งหมาย  ที่ทีมได้ตั้งเอาไว้  การระดมความคิดมีประโยชน์มากมายในการแก้ไขปัญหา และริเริ่มโครงการใหม่ ๆ  และวันนี้เราได้รวมเทคนิค ที่ดีที่สุดในการระดมความคิดที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน มาเผยแพร่ให้ท่านผู้อ่านได้อ่าน และนำไปใช้กันครับ

ค้นหาสมาชิกในทีมระดมความคิดของคุณ

       จงเอาตัวคุณเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนซึ่งจะมีกี่คนก็ได้ที่คุณต้องการ เพื่อทำให้เกิดการระดมความคิดซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างสรรค์และประสบความสำเร็จในแผนงานของคุณ รวมไปถึงแผนการแห่งการสร้างความร่ำรวยได้ จงให้ความร่วมมือทำตามคำแนะนำนี้อย่างจริงจัง

   คุณต้องเลือกที่จะร่วมงานกับคนที่คู่ควร มีเป้าหมาย ความสนใจ และมีปณิธานแรงกล้าที่จะทุ่มเทความพยายามเช่นเดียวกับคุณ การลองผิดลองถูกเป็นขั้นตอนหนึ่ง แต่มีสองสิ่งที่จำเป็นต้องจำใส่ใจไว้คือ

  -ประการแรกคือ ความสามารถในการทำงาน อย่าเลือกคนเข้ามาเพราะคุณรู้จักหรือชอบเขาเป็นอันขาด คนกลุ่มนี้อาจมีค่ากับคุณเพราะเขาช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้น แต่ไม่เหมาะกับทีมระดมความคิด เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการตลาดดีที่สุด แต่เขาอาจช่วยแนะนำคนเก่งที่สุดให้คุณได้

 -ประการที่สองคือ ความสามารถที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นด้วยความสมานฉันท์ จำเป็นต้องมีการประชุมด้วยใจโดยไร้ข้อจำกัด ความทะเยอทะยานส่วนตัวต้องเป็นรองการบรรลุเป้าหมายของทีม ซึ่งรวมไปถึงความทะเยอทะยานของตัวคุณเองด้วย

คุณต้องยืนยันสิ่งนี้กับตัวเองอย่างเป็นความลับ คนบางคนสามารถให้ไอเดียพื้นๆได้ เพราะเขาช่างพูด คุณต้องไม่ให้คนพวกนี้เข้ามาในกลุ่ม

จงปรับตัวคุณเองให้เข้ากับสมาชิกทุกคนในกลุ่ม ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่คุณถูกพวกเขากดดัน จงพยายามจินตนาการว่าคุณจะทำอย่างไร

จงให้ความสนใจกับภาษากายที่เขาแสดงออก บางทีการแสดงสีหน้าท่าทางจะบอกความรู้สึกของคนเราได้มากกว่าคำพูดที่ออกมาจากปาก ซึ่งว่องไวที่จะรับรู้สิ่งที่เขากำลังพูด บางทีสิ่งซึ่งพูดทิ้งไว้ก็มีความสำคัญ

 อย่าพยายามบีบบังคับให้คนในกลุ่มก้าวเร็วเกินไป จงยอมให้คนที่ต้องการทดสอบความคิดตัวเองได้มีโอกาสท้าทายคุณบ้าง

  ตอบแทนทีมระดมความคิดของคุณ

ก่อนที่จะสร้างทีมระดมความคิดของคุณขึ้นมา จงตัดสินใจว่าอะไรบ้างที่คุณจะให้เป็นสิทธิประโยชน์แก่สมาชิกในกลุ่ม เพื่อเป็นการตอบแทนความร่วมมือร่วมใจของพวกเขา ไม่มีใครทำงานโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่มีคนฉลาดคนใดร้องขอหรือคาดหวังให้คนอื่นทำงานให้โดยปราศจากการตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ

ความมั่งคั่งจะปรากฏแก่สมาชิกของคุณทุกๆคน จงให้พวกเขาอย่างยุติธรรมและด้วยความใจกว้าง การที่สมาชิกแต่ละคนได้รับการยอมรับ และมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น อาจสำคัญพอๆกับเงินทองเลยทีเดียว

 จงจำไว้ว่า หลักการของหุ้นส่วนที่ทำงานเกินเงิน (ทำงานมากกว่าและดีกว่าเงินที่ได้รับ) นั้นมีความสำคัญมาก ในฐานะผู้นำ คุณควรจะเป็นตัวอย่างให้คนอื่นทำตาม

 สมาชิกแต่ละคนต้องตกลงกันได้ตั้งแต่ตอนแรก ในการที่จะช่วยกันสร้างผลกำไรและผลประโยชน์ ตลอดจนถึงการแบ่งผลประโยชน์ด้วย มิเช่นนั้นแล้วคุณก็มั่นใจได้เลยว่าความแตกแยกจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน มิตรภาพและความร่วมมือจะถูกทำลายจนหมดสิ้น

การประชุมทีมระดมความคิดของคุณ

 จัดให้มีการประชุมสมาชิกทีมระดมความคิดของคุณ จนกว่าคุณจะร่วมกันทำแผนการที่จำเป็น หรือแผนสร้างความร่ำรวยเป็นผลสำเร็จ โดยประชุมอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้งหรือบ่อยกว่านั้นถ้าเป็นไปได้

การประชุมครั้งแรกจะเกี่ยวข้องกับการแยกแยะจุดแข็ง จุดอ่อน และปรับรายละเอียดของแผนการ

เมื่อการระดมความคิดของคุณดีขึ้นและเกิดความสมัครสมานสามัคคีในหมู่สมาชิก คุณจะพบว่าการประชุมจะสร้างสรรค์ไอเดียให้ไหลไปสู่จิตใจสมาชิกทุกคน
        
 อย่าให้การประชุมสม่ำเสมอเป็นทางการมากเกินไป จนห้ามรับโทรศัพท์มือถือและการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการ

 ธำรงรักษาการระดมความคิด

จงรักษาความสมัครสมานสามัคคีระหว่างตัวคุณกับสมาชิกในทีมระดมความคิดไว้ให้ดี ถ้าพลาดคำแนะนำนี้ไปแม้เพียงเล็กน้อย คุณอาจพบกับความล้มเหลว หลักแห่งการระดมความคิดจะไม่ได้ผลถ้าความสามัคคีไม่เกิดขึ้น

จงสร้างสรรค์บรรยากาศที่เป็นมิตร ยอมรับทุกความคิดเห็นด้วยความสนใจและใส่ใจในความรู้สึกของผู้นั้น ทุกคนต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยหลักแห่งจริยธรรมและต้องไม่มีสมาชิกคนใดที่แสวงหาผลประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรม

ในฐานะผู้นำ คุณต้องสร้างสรรค์ความมั่นใจให้เกิดขึ้นในหมู่สมาชิกว่า คุณได้อุทิศตนให้กับปณิธานของคุณซึ่งเป็นเป้าหมายของทีมงาน สมาชิกต้องรับรู้ว่าคุณน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้

 เมื่อคุณพร้อมที่จะเสนอผลงานแห่งความพากเพียรพยายามต่อนักลงทุนผู้ซื้อ หรือสาธารณชนแล้ว คุณอาจถูกท้าทายภาวะผู้นำในการที่จะรักษาความปรองดองของทีมระดมความคิดของคุณ ความพยายามของทีมกำลังจะถูกตัดสินโดยคนภายนอก และต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจของผู้อื่นด้วยความกล้าหาญและอดทน ความกล้าหาญของแต่ละคนเทียบไม่ได้กับความกล้าหาญของทั้งทีมยิ่งคุณสามารถรักษาความสมัครสมานสามัคคีได้มากเท่าไร พลังยิ่งมากขึ้นเท่านั้นและเมื่อพลังยิ่งมากขึ้น คุณก็จะสามารถเอาชนะอุปสรรคได้ง่ายขึ้น

 การแต่งงานกับการระดมความคิด 

พันธมิตรร่วมคิดที่คุณรักมากที่สุดมีความสำคัญมาก ถ้าคุณแต่งงานแล้วแต่ไม่ได้สร้างสัมพันธภาพอันดีตามหลักการแห่งความสมัครสมานสามัคคี ซึ่งมีความสำคัญมากต่อพันธมิตรของคุณแล้วล่ะก็ คุณก็อาจจะต้องหย่าร้างกับคู่สมรสจงจัดเวลาในแต่ละวันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการ และวิธีการที่จะทำเป้าหมายที่ชัดเจนของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถโน้มน้าวจิตใจคู่ครองให้เห็นถึงผลประโยชน์ของงานที่คุณกำลังจะทำ เป็นไปไม่ได้ที่งานของคุณจะไม่กระทบคู่สามีหรือภรรยาของคุณเลย ดังนั้นคุณต้องไม่พยายามลากคู่ครองของคุณเข้าไปเสี่ยงโดยไม่เต็มใจ

จงทำให้มิตรภาพจากการระดมความคิดเข้ามาอยู่ในชีวิตแต่งงานของคุณด้วยตั้งแต่ต้น แล้วสิ่งนี้จะช่วยสนับสนุนคุณ แม้ในช่วงที่ไม่เห็นแสงสว่างแห่งชีวิต ความเป็นจริงแล้วทุกคนในครอบครัวจะถูกรวมเข้ามาเป็นพันธมิตรของคุณด้วย ถ้าขาดความสามัคคีในบ้าน งานการก็อาจมีปัญหาตามไปด้วย ครอบครัวที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นทีมงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

การระดมความคิดและอัจฉริยภาพแห่งจักรวาล

 แหล่งที่มาของพลังส่วนหนึ่งของคุณมาจากอัจฉริยภาพแห่งจักรวาล การที่คนตั้งแต่สองคนขึ้นไปร่วมมือร่วมใจกันด้วยจิตวิญญาณแห่งความสมัครสมานสามัคคี และทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นหมายความว่า เขาได้วางตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งที่จะซึมซับพลังแห่งจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ซึ่งก็คือสิ่งที่ผมระบุว่าเป็นอัจฉริยภาพแห่งจักรวาล นี่คือแหล่งพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นแหล่งซึ่งอัจฉริยบุคคลและผู้นำที่ยิ่งใหญ่ใช้ (ไม่ว่าเขาจะรู้ความจริงนี้หรือไม่ก็ตาม)

เสน่ห์ดึงดูด อารมณ์ของมนุษย์


เสน่ห์ดึงดูด อารมณ์ของมนุษย์มีส่วนสำคัญในการสร้างกฎเกณฑ์และอารยธรรม คนเรามักอยู่ภายใต้อิทธิพลของอารมณ์มากกว่าเหตุผล การสร้างสรรค์งานอะไรสักอย่างคุณก็ต้องใช้อารมณ์ ไม่ใช่เหตุผลล้วนๆ จิตใจของคนเราตอบสนองต่อสิ่งเร้าผ่านสิ่งซึ่งเป็นเหมือนกุญแจเปิดทาง เช่น ความกระตือรือร้น จินตนาการสร้างสรรค์ หรือปณิธานอันแรงกล้า สิ่งเร้าที่กระตุ้นจิตใจของเรา ได้แก่
1. ความต้องการแสดงออกทางเพศ
2. ความรัก
3. ความปรารถนาในชื่อเสียง อำนาจ ความมั่นคงทางการเงิน
4. ดนตรี
5. มิตรภาพ และการได้รับการยอมรับจากผู้อื่น
6. กัลยาณมิตรที่พร้อมจะร่วมกันคิด และระดมความคิดเพื่อความก้าวหน้า
7. ความเห็นอกเห็นใจกันซึ่งกันและกัน
8. การเสนอแนะตัวเอง
9. ความหวาดกลัว
10. แอลกอฮอล์และยา

 ความต้องการแสดงออกทางเพศอยู่ในอันดับต้นๆ ของสิ่งเร้าที่มีผลต่อจิตใจ และเป็นตัวผลักดันให้เกิดกิจกรรมต่างๆ อารมณ์ที่สัมพันธ์กับแรงขับทางเพศเป็นส่วนหนึ่งของจิตใจ เมื่อถูกกระตุ้นด้วยแรงปรารถนานี้ คนเราจะกล้าหาญ มีอำนาจจิต มีจินตนาการ และมีความสามารถในการสร้างสรรค์ โดยที่ในภาวะปกติแล้วพวกเขาจะไม่มีเลย ความต้องการแสดงออกทางเพศกระตุ้นให้เรากล้าเสี่ยงและพยายามสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง เขื่อนที่กั้นแม่น้ำไว้ทำให้กระแสน้ำถูกควบคุมไว้ชั่วคราว และได้รับการปลดปล่อยพลังออกมาในที่สุด กามารมณ์ก็มีลักษณะเดียวกันนี้ มันจะถูกกักและควบคุมเอาไว้ระยะเวลาหนึ่ง แต่ต้องหาทางปลดปล่อยตามธรรมชาติ

 ความต้องการทางเพศเป็นสิ่งที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด และเป็นเรื่องของธรรมชาติ ความปรารถนานี้ไม่สามารถและไม่ควรจะถูกกักเอาไว้หรือทำลายทิ้งเสีย มันสามารถส่งผลดีให้กับร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ หากเราสามารถควบคุมและจัดการแรงจูงใจนี้ให้เป็นประโยชน์ได้ โดยใช้เพื่อการสร้างสรรค์งานวรรณกรรมศิลปะและกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งรวมไปถึงการสร้างความร่ำรวยด้วย

 วิทยากรผู้ซึ่งอบรมนักขายไปมากกว่า 30,000 คน ให้ข้อสรุปว่า นักขายที่มีแรงดึงดูดทางเพศมากที่สุดมักจะเป็นนักขายที่เก่งที่สุด คำอธิบายของปัจจัยทางบุคลิกภาพที่รู้จักกันว่า “แรงดึงดูดเฉพาะตัว” ก็คือพลังทางเพศนั่นเอง ผู้จัดการฝ่ายขายที่เก่งมักพิจารณาเลือกจ้างพนักงานขายที่มีแรงดึงดูดเฉพาะตัวหรือมีเสน่ห์ดึงดูด คนที่ขาดพลังทางเพศนอกจากตัวเองจะไม่ค่อยกระตือรือร้นแล้ว ยังไม่สามารถกระตุ้นให้ผู้อื่นกระตือรือร้นด้วย

ความกระตือรือร้นเป็นหนึ่งในลักษณะสำคัญของนักขาย ไม่ว่าคุณกำลังขายของอะไรก็ตาม นักพูด นักเทศน์ นักกฎหมาย หรือนักขายที่ขาดเสน่ห์ดึงดูดผู้อื่น และไม่เห็นความสำคัญของการโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นมักจะล้มเหลวไปตลอด ความจริงที่ว่าคนส่วนใหญ่มักจะถูกโน้มน้าวด้วยเสน่ห์ที่มีผลต่ออารมณ์ จะทำให้คุณยิ่งเชื่อมั่นว่า เสน่ห์ดึงดูดเป็นส่วนสำคัญยิ่งของความสามารถในการขาย

นักขายระดับแนวหน้าสามารถสร้างยอดรายได้สูง เพราะเขาสามารถแปรเปลี่ยนเสน่ห์ดึงดูด (พลังทางเพศ) ไปเป็นความกระตือรือร้นในการขาย นั่นก็คือการแปรสภาพของกามารมณ์นั่นเอง ความหมายง่ายๆ ของคำว่า แปรสภาพ ก็คือ การเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนสภาพของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พลังการแปรสภาพของพลังทางเพศจึงหมายความถึงการเปลี่ยนความรู้สึกนึกคิดและการแสดงออกทางร่างกาย ไปกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกตามธรรมชาติแก่ผู้อื่น

นักขายที่รู้จักวิธีในการสร้างเสน่ห์ดึงดูดจะเป็นคนที่มีศิลปะในการแปรสภาพของพลังทางเพศออกมาก ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม นักขายส่วนมากที่มีความสามารถในการแปรสภาพพลังทางเพศ มักทำไปโดยไม่รู้ตัว และไม่รู้ตัวด้วยว่าตัวเองทำได้อย่างไร คุณสามารถสร้างและพัฒนาคุณลักษณะนี้ขึ้นมาได้จากการติดต่อกับคนอื่น ด้วยความรู้ความเข้าใจนี้ คุณสามารถพัฒนาแรงจูงใจที่สำคัญนี้ให้มาก และใช้มันสร้างความได้เปรียบในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ และพลังนี้อาจส่งต่อไปยังผู้อื่นด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. การจับมือ สัมผัสที่มือจะเป็นตัวบ่งบอกว่า คุณมีเสน่ห์ดึงดูดหรือไม่
2. โทนเสียง เสน่ห์ดึงดูดหรือพลังทางเพศเป็นส่วนสำคัญของน้ำเสียงที่ไพเราะและมีเสน่ห์
3. กิริยาท่าทาง คนที่มีเสน่ห์ดึงดูดจะมีกิริยาท่าทางกระฉับกระเฉง แต่สุภาพเรียบร้อย
4. บุคลิกภาพ คนที่มีเสน่ห์ดึงดูดจะส่งสัมพันธภาพทางเพศผ่านบุคลิกที่สามารถโน้มน้าวผู้อื่น
5. เสื้อผ้าและการแต่งกาย คนที่มีเสน่ห์ดึงดูดมักจะเป็นคนที่พิถีพิถันในการเลือกเสื้อผ้า และแต่งกายได้เหมาะสมกับบุคลิกภาพและสถานที่

ดั้งนี้ ท่านผู้อ่านขอให้เตรียมความพร้อมให้ดี  ครั้งหน้าเมื่อคิดต้องการสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น  ขอให้นึกว่าพื้นฐานมนุษย์นี้เหมือนกัน เราจงใช้เคล็ดลับนี้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด


พลังแห่งความสร้างสรรค์



ผมพบว่าเบื้องหลังความสำเร็จของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งผมได้สิทธิพิเศษในการวิเคราะห์

มักได้รับแรงบันดาลใจจากผู้หญิง ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็คือภรรยานั่นเอง ซึ่งสังคมทั่วไปมักไม่ค่อยจะรู้

จากการศึกษาของผมพบว่า มีอยู่บางรายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหญิงอื่น

หน้าประวัติศาสตร์ได้จารึกความสำเร็จของผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับอิทธิพลจากผู้หญิงซึ่งกระตุ้นจิตใจให้เกิดความคิดส

ร้างสรรค์ นโปเลียน โบนาปาร์ต เป็นหนึ่งในนั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจจากโจเซฟินภรรยาคนแรก

ทำให้เขาเข้มแข็ง ไม่มีใครเอาชนะได้ แต่เมื่อตัดสินใจที่จะห่างเหินจากเธอ

ความเสื่อมถอยก็เริ่มมาเยือนเขาพ่ายแพ้ และถูกเนรเทศไปเกาะเซนต์เฮเลนา

อับราฮัม ลินคอล์น

เป็นตัวอย่างของผู้นำที่ประสบความสำเร็จจากการค้นพบจินตนาการสร้างสรรค์และนำมันไปใช้ประโยชน์

เป็นที่น่าสังเกตว่าหนังสือทุกเล่มที่เขียนเกี่ยวกับลินคอล์น มักพูดถึงประสบการณ์แห่งรักที่เขามีเมื่อพบกับ

แอนน์ รัตเลดจ์ เขาได้ค้นพบมันและนำไปใช้ประโยชน์ มันเป็นมากกว่าข้อมูลประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ

เพราะมันคือการเชื่อมโยงบทบาทของสัมพันธภาพทางเพศที่มีต่ออัจฉริยภาพ

ต่อไปนี้เป็นรายนามของบุรุษผู้มีชื่อเสียงที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้น 


  • จอร์จ วอชิงตัน 
  • นโปเลียน โบนาปาร์ต 
  • วิลเลียม เช็กสเปียร์ 
  • อับราฮัม ลินคอล์น 
  • ราล์ฟ วัลโด อีเมอร์สัน 
  • โรเบิร์ต เบิร์น 
  • โทมัส เจฟเฟอร์สัน 
  • อัลเบิร์ต เอช. แกรี่ 
  • วูดโรว์ วิลสัน 
  • จอห์น เอช. แพตเตอร์สัน 
  • แอนดรูว์ แจ็คสัน 
  • เอนริโก คารูโซ 


มีหลักฐานความเชื่อมโยงระหว่างชีวิตและความสำเร็จของบุคคลเหล่านี้

โดยแต่ละท่านล้วนได้ครอบครองธรรมชาติแห่งกามารมณ์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างสูงยิ่ง

การวิเคราะห์ข้อมูลชีวประวัติได้นำไปสู่ข้อสรุปดังนี้

1. ผู้ที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ไม่เพียงแต่พัฒนาธรรมชาติแห่งเพศ

2. คนที่สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยหรือประสบความสำเร็จในด้านวรรณกรรม ศิลปะ อุตสาหกรรม

อารมณ์นี้ผลักดันให้พวกเขามีพลังใจอันยิ่งใหญ่ที่จะทำในสิ่งต่างๆ ถ้าได้เข้าใจในสิ่งนี้แล้ว

คุณย่อมเข้าใจว่าทำไมการแปรสภาพกามารมณ์จึงเป็นที่มาของศักยภาพในการสร้างสรรค์

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่มีพลังทางเพศสูงจะเป็นอัจฉริยะไปหมด

พวกเขาสร้างอัจฉริยภาพด้วยการกระตุ้นจิตใจผ่านความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นตัวกระตุ้นหรือแรงจูงใจที่สำคัญที่สุด

แต่ลำพังพลังทางเพศอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอที่จะสร้างอัจฉริยภาพ

ก่อนที่จะเกิดอัจฉริยภาพพลังนี้ต้องแปรสภาพความปรารถนาการสัมผัสทางกายภาพไปสู่ความปรารถนา

รูปแบบอื่นและเป็นการปฏิบัติเสียก่อน จึงจะสามารถยกระดับผู้ใดผู้หนึ่งไปสู่อัจฉริยภาพได้

แต่ยังได้เรียนรู้ศิลปะแห่งการแปรสภาพพลังแห่งกามารมณ์อีกด้วย

สถาปัตยกรรม มักได้รับอิทธิพลและแรงจูงใจจากคนรัก

ทุนเรียนต่อเมืองนอก

E-Book แนะนำ รองรับโทรศัพท์มือถือ


กรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิพิเศษ