วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

มูลค่าชีวิต

     ขอบคุณ vittarot.com

  บนโลกนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้สับสน ระบบการศึกษาสอนให้เราเรียนเพื่อหางานดีๆเงินดีๆทำ พอเข้าทำงานก็มีคนสอนอีกว่าทำงานอย่าเกี่ยงเงิน บางคนบอกให้เดินตามความฝันอย่าทำเพื่อเงิน แต่ถ้าไม่มีเงินชีวิตก็เดือดร้อน ผู้ให้แรงบันดาลใจส่วนใหญ่บอกว่าให้ทำงานให้หนักโดนไม่ต้องแคร์เรื่องเงิน แต่ถ้าเขาจ้างให้มาพูดโดยให้เงิน 200 บาทพูดทั้งวันพวกเขาเหล่านั้นจะเอาไหม

      ตกลงแล้วเงินมันสำคัญหรือไม่สำคัญกันแน่ ผมฟันธงให้ว่าสำคัญโครตๆ อย่างน้อยคุณก็ต้องใช้มันเพื่ออาหาร 3 มื้อ อย่างน้อยถ้าพ่อแม่คุณป่วยคุณก็มั่นใจว่าคุณจะมีเงินมากพอที่จะขาดงานไปเป็นเดือนเพื่อดูแลท่าน อย่างน้อยคุณก็สามารถพาแฟนไปฮันนีมูนได้แล้วกัน แน่นอนประโยคคลาสสิก เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่างบนโลก อย่างน้อยก็ความรัก คำตอบคือถูกต้อง ความรักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถซื้อได้ แต่ยอมรับเถอะว่านอกจากความดีแล้ว ความมั่นคงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของคุณสมบัติของความรักเช่นกัน อย่างน้อยคุณก็คงไม่อยากให้แฟนของคุณต้องลำบากกัดก้อนเกลือเพราะคุณใช่มั้ย อย่างน้อยคุณก็อยากทำสิ่งที่ดีที่สุดให้คนรักของคุณใช่มั้ย?

      น่าแปลก ประเทศเราใครพูดเรื่องเงินก็มักถูกมองเป็นคนโลภ บางครั้งคนที่กระหายอยากได้เงินเยอะๆจะถูกมองเป็นพวกมารศาสนาเพราะไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่ตนเองมี

มีคนบอกว่าทำงานอย่าคิดถึงเรื่องเงิน…?

  เวปไซต์ Pantip เป็นเว็บที่ผมมองว่ามันคือสุดยอดของ Webboard ในโลกแล้ว ในนั้นมีผู้คนหลากหลายมากๆ มีทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ ผมว่าสังคมของเราขับเคลื่อนไปด้วยพลังของ Pantip เพราะมันก่อให้เกิดกระแสสังคมใหญ่ๆนับครั้งไม่ถ้วน มีกระทู้หนึ่งผมจำได้ดี เป็นกระทู้ระบายความในใจของเจ้าของกิจการคนหนึ่งเกี่ยวกับการหาคน รายละเอียดคร่าวๆคือเจ้าของกิจการมาเขียนระบายความในใจว่าเด็กสมัยใหม่นี้ใช้ไม่ได้ ต้องการเงินเดือนแพงๆทั้งๆที่ไม่มีประสบการณ์ แถมยังเลือกงานอีก ได้คนมาก็อยู่ไม่ทน สรุปก็คือมาระบายความในใจเกี่ยวกับการหาลูกน้องนั่นแหละครับ เท่าที่ผมจับประเด็นแบบเบื้องหลังได้ ก็คือเขาอยากได้พนักงานด้วยค่าแรงที่เขาคิดว่าสมเหตุสมผลนั่นแหละ ปัญหาที่ผมเดาก็คือมันสมเหตุสมผลของใคร ของนายจ้างที่ต้องการใช้เงินให้น้อยที่สุด หรือของลูกจ้างที่บังเอิญมีงานที่เสนอเงินเดือนมากกว่าให้เขาเลือก

และเมื่อมีกระทู้ของนายจ้างแล้ว กระทู้ของลูกจ้างก็มีครับ ส่วนใหญ่ก็จะสอบถามเกี่ยวกับความรับผิดชอบของสายงานจนไปถึงกระทั่งเรื่องของเงินเดือน ตรงเรื่องของเงินเดือนนี่แหละครับที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่ของคนที่เริ่มต้นหางานครั้งแรกในชีวิตมักจะตั้งกระทู้ถามว่าควรจะเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็จะอิงเรตราคาตามวุฒิการศึกษาที่มีอยู่ ปริญญาตรีมีค่าแรงต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ราวๆ 13,000 ถึง 17,000 บาท ส่วนปริญญาโทมีราวๆ 17,000 จนถึง 30,000 บาท ส่วนระดับด็อกเตอร์นั้นไม่ทราบจริงๆ และคำแนะนำจึงไม่ได้มีอะไรมากนอกเสียจากบอกระดับมาตรฐานเงินเดือนของสายอาชีพที่ถูกถามอย่างคร่าวๆเท่านั้น

และแน่นอนตามประสาของผู้คนร้อยพ่อพันแม่ คำตอบประเภทที่ว่าอย่าคิดถึงเรื่องเงินก็ต้องมีอย่างแน่นอน ไม่ใช่สิ มันมีทุกกระทู้ที่ถูกถามนั่นแหละ คำถามคือการทำงานโดยคิดถึงเรื่องเงินมันไม่สำคัญตรงไหน คนที่พูดคำนี้ได้ส่วนใหญ่เงินเดือนสูงๆแล้วทั้งนั้น เขาไม่เดือดร้อนนี่ครับเขาเลยพูดได้เต็มปาก ที่ผมบอกว่าการทำงานโดยเอาเงินมาเป็นตัวตั้งมันสำคัญก็เพราะว่าถ้าชีวิตคุณส่วนใหญ่ต้องเสียเวลาไปกับการทำให้คนอื่นรวยขึ้น สุขสบายขึ้น คุณก็ควรมีสิทธิ์ที่จะเลือกมูลค่าหรือราคาของตัวเองตามที่พอใจ นายจ้างหรือ HR มีสิทธิ์ที่จะจ้างหรือไม่จ้างก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อว่าหรือไม่พอใจในสิ่งที่คนเหล่านั้นเรียกร้อง คุณอาจจะโน้มน้าวใจให้เขาเห็นว่าค่าตัวของเขาแพงเกินราคาตลาดก็ได้ แต่คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อว่าความต้องการของเขา ดูถูกหรือตำหนิเขา อย่างน้อยขอให้คิดว่าบ้านหลังใหญ่ๆ รถหรูๆที่นายจ้างที่มีขับก็มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของลูกจ้างเช่นกัน

ดังนั้นผมเชื่อว่ามูลค่าเป็นสิ่งที่เจ้าของชีวิตกำหนดให้กับชีวิตของเขาเอง จะแพงหรือถูกขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างจะตัดสินใจ!

น่าแปลกที่คนส่วนใหญ่มักยอมให้ตลาดกำหนดมูลค่าของชีวิตพวกเขาว่ามีเรตราคาเท่าไหร่…?

แล้วทุกคนรับได้เพราะนี่คือเรื่องที่คนส่วนใหญ่ยอมรับกัน ทีนี้ลองมาดูสมการบางอย่างที่ผมอยากจะลองตั้งโจทย์ให้พวกคุณคิดดู นี่เป็นสมการสมมุติ เป็นโจทย์สมมุติที่ไม่อิงกับความเป็นจริงซักเท่าไหร่ แต่ขอร้องว่าคุณควรจะคิดตามให้ดีๆ เรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องของเงินโดยตรง และเป็นการคำนวนที่บัดซบมากๆด้วย ผมขอถามคุณว่าคุณคิดว่าชีวิตของคุณมีมูลค่าหรือราคาต่อเดือนเท่าไหร่ เอาให้ชัดๆคือคุณคิดว่าคุณควรจะได้เงินเดือนเท่าไหร่อย่างนี้ก็ได้

ได้คำตอบแล้ว ทดไว้ในใจ


    นักศึกษาส่วนใหญ่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีที่อายุราวๆ 23 ปี สมมุติว่าพ่อแม่ของคุณต้องใช้เงินเพื่อดูแลคุณทั้งเรื่องค่าอาหาร การเดินทาง ค่าป่วยไข้ไม่สบาย ค่าของเล่น ค่าเรียน ค่ารายงาน ค่าทัศนะศึกษา ค่าสตาร์บั๊ค บลาๆๆ เฉลี่ยทั้งชีวิตตีเป็นเงินราวๆ 10,000 บาทต่อเดือน (ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่พ่อแม่เสียเงินมากกว่านั้น) เพื่อแลกกับความสุข ความรัก และหลักประกันชีวิตในอนาคตของลูก เท่ากับว่า 1 ปีคุณจะใช้เงินของพ่อแม่ราวๆ 120,000 บาท คุณใช้เวลา 23 ปีเพื่อจบการศึกษาก็จะเท่ากับ 120,000 บาท คุณด้วย 23 ปี จะเท่ากับพ่อแม่ให้คุณใช้เงินแล้ว 2,760,000 บาท ด้วยมูลค่าขนาดนี้พ่อแม่สามารถซื้อรถ Mercedes benz new c class c220 cdi executive ได้พอดีเลย นั่นคือถ้าเปรียบเทียบเป็นภาพแบบทุนนิยมสุดๆ คือมูลค่าของตัวคุณมีเท่ากับหรือมากกว่ารถราคา 2,760,000 บาทแน่นอน

และถ้าสมมุติว่าถ้าคุณมีเจ้ารถคันนี้มาในครอบครองจริงๆ ผมขอถามคุณว่าคุณจะยอมให้คนเช่ารถคันนี้ในราคาเท่าไหร่ สมมุติว่าคุณให้เช่าในราคาเดือนละ 15,000 บาท เดือนหนึ่งคุณปล่อยให้เช่า 20 วันคือวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และให้เช่าแค่ 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเช่าเหมาทั้งเดือน นั่นเท่ากับว่ารถคันนี้จะต้องถูกขับเป็นเวลา 180 ชั่วโมงเต็มต่อเดือน เมื่อคุณให้เช่าในราคา 15,000 บาทต่อเดือน ก็เอาจำนวนค่าเช่ามาหารกับจำนวนชั่วโมงดู ก็จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 84 บาทต่อชั่วโมงเท่านั้น

คุณคิดว่าบนโลกในบี้ จะมีใครปล่อยรถ Mercedes benz new c class c220 cdi executive ให้เช่าด้วยเงินเพียง 84 บาทต่อชั่วโมงหรือไม่ นี่มันบ้าชัดๆ ใครให้เช่าสิ่งของมูลค่า 2,760,000 บาทด้วยราคาเพียง 84 บาทต่อชั่วโมง บ้าจริงๆ หรือถ้าคุณหัวการค้าขึ้นมาหน่อย คุณเพิ่มค่าเช่าให้เป็นเดือนละ 25,000 บาทไปเลย เมื่อเฉลี่ยเป็นเงินต่อชั่วโมงแล้วจะเท่ากับ 139 บาทต่อชั่วโมงแล้ว แต่ถ้ามาคิดดีๆถึงแม้จะเยอะกว่าเดือนละ 15,000 บาท แต่ราคามันก็ต่ำกว่าจะรับได้อยู่ดี

ทีนี้ผมขอถามคุณนะครับ คุณว่ามูลค่าของตัวคุณ กับมูลค่าของรถ Mercedes benz new c class c220 cdi executive เจ้าสิ่งไหนมีราคาที่แพงกว่ากัน เอาความเสียหายสูงสุดมาเปรียบเทียบ ถ้ารถเบ๊นซ์เกิดพังไป อย่างมากเจ้าของก็แค่ซื้อใหม่ สูญเงินซัก 2 ล้านกว่าบาทก็ไม่เห็นเสียหาย เผลอๆไม่ต้องเสียเพราะประกันชั้น 1 ดูแลให้เสร็จสรรพ อาจจะได้รุ่นทีดีกว่าเดิม เร็วกว่าเดิม เท่กว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ถ้าชีวิตคนทั้งคนของคุณตายไป มันไม่มีอะไรมาทดแทนได้นะครับ อย่างน้อยคนที่ร้องไห้กับการตายของคุณคนแรกต้องไม่ใช่นายจ้างแน่นอน ถ้าคุณบอกว่าไม่เป็นไร ตายไปก็เริ่มต้นใหม่ในชาติหน้า ผมก็ขอถามคุณว่าคุณเชื่อไหมหละ ว่าชาติหน้ามีจริง!

ถ้าคุณคิดว่าหมื่นห้า คุณก็จะได้หมื่นห้า
ถ้าคุณคิดว่าสองหมื่น คุณก็จะได้สองหมื่น
ถ้าคุณคิดว่าหนึ่งแสน คุณก็จะได้หนึ่งแสน
ถ้าคุณคิดว่าหนึ่งล้าน คุณก็จะได้หนึ่งล้าน


สรุปเรื่องความคิด

แต่ถ้าคุณไม่มีไอเดียว่าชีวิตของคุณมีราคาเท่าไหร่ ก็ลองถามคนที่รักคุณดูสิ
แล้วจะค้นพบว่าความจริง ชีวิตของคุณประเมินค่าไม่ได้สำหรับใครบางคน

ขอถามอีกครั้ง คุณคิดว่า  Mercedes benz new c class c220 cdi executive มูลค่า 2,760,000 บาท กับชีวิตคุณ สิ่งไหนแพงกว่ากัน…???
ขอถามอีกครั้ง คุณคิดว่ามูลค่าชีวิตของคุณเท่าไหร่???


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทุนเรียนต่อเมืองนอก

E-Book แนะนำ รองรับโทรศัพท์มือถือ


กรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิพิเศษ