วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อารมณ์แห่งศรัทธา ความเชื่อ และจิตใจ

ศรัทธา ความเชื่อ เป็นปัจจัยสำคัญของจิตใจ


     เมื่อศรัทธาหลอมรวมเข้ากับความคิดจะทำให้จิตใต้สำนึกสามารถรับรู้คลื่นความคิดนั้น  จิตใต้สำนึกจะแปลความหมายและส่งมันไปสู่อัจฉริยภาพแห่งจักรวาล(infinite intelligence)

    อารมณ์แห่งศรัทธา ความรัก และกามารมณ์ เป็นอารมณ์เชิงบวกที่ทรงพลังที่สุด  เมื่อสามสิ่งนี้หลอมรวมเข้าด้วยกันมันจะแต่งแต้มสีสันให้กับความคิด  ซึ่งจะทำให้มันสามารถเข้าสู่จิตใต้สำนึกได้  ที่นั่นมันจะถูกแปรเปลี่ยนไปสู่รูปแบบซึ่งพร้อมที่จะรับการตอบสนองจากอัจฉริยภาพแห่งจักรวาล

     ข้อความต่อไปนี้สำคัญมาก ในการทำความเข้าใจกับความสำคัญของการเสนอแนะตัวเอง  เพื่อแปรเปลี่ยนปณิธานไปเป็นสิ่งที่จับต้องได้และเงินทอง

คำว่า "ศรัทธา"  หมายถึงสภาวะจิตใจที่จะถูกชักนำและสร้างสรรค์ด้วยการยืนยันหรือออกคำสั่งซ้ำๆ ไปยังจิตใต้สำนึก  ผ่านหลักการของการเสนอแนะตัวเอง

การยืนยันกับตัวเองซ้ำๆ นี้   เหมือนกับการออกคำสั่งกับจิตใต้สำนึกของคุณและมันเป็นวิธีการเดียวในการเสริมสร้างอารมณ์แห่งศรัทธา   (ความเชื่อมั่นอย่างแท้จริงว่าคุณสามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้)

ลองพิจารณาว่า 

   ทำไมคุณจึงได้มาพบกับข้อความนี้ นั่นเพราะคุณต้องการที่จะมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงพลังความคิดแห่งปณิธาน  ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนให้เปลี่ยนเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ซึ่งรวมไปถึงเงินทองด้วย  คำแนะนำนี้วางอยู่บนพื้นฐานของ การเสนอแนะตัวเองและจิตใต้สำนึก

   และคุณจะได้เรียนรู้เทคนิคที่จะทำให้จิตใต้สำนึกเชื่อว่า ตัวคุณเองมีความเชื่อในสิ่งที่ร้องขอจิตใต้สำนึกจะจัดการกับความเชื่อนั้น และส่งมันกลับมาหาคุณในรูปแบบของ “ศรัทธา”  ตามมาด้วยแผนการที่จะนำสิ่งที่คุณได้ตั้งปณิธานไว้มาให้คุณ

   คุณจะต้องพัฒนาสภาวะจิตใจแห่งความมีศรัทธาในตัวเองและศักยภาพของตัวเองให้เกิดขึ้นมา  เป็นความจริงที่ว่า  "ศรัทธา"  เป็นสภาวะจิตใจที่จะพัฒนาให้เกิดในตัวคุณเองได้ตามธรรมชาติก็ต่อเมื่อคุณได้นำหลักการเหล่านี้ไปใช้  อารมณ์หรือความรู้สึกแห่งห้วงความคิด  เป็นสิ่งที่ทำให้ความคิดของคุณมีชีวิตชีวาและจะส่งผลต่อกิจกรรมที่จะทำต่อไป

     อารมณ์แห่งศรัทธา อารมณ์รัก และกามารมณ์  เมื่อผสมผสานเข้ากับพลังความคิดจะนำไปสู่การปฏิบัติที่สัมฤทธิผลความคิดที่ถูกเจือปนด้วยอารมณ์  (ความรู้สึก) และผสมผสานด้วยศรัทธา (ความเชื่อในศักยภาพของตนเอง)  จะเริ่มแปรเปลี่ยนสภาพของตัวมันเองอย่างมีปฏิสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามความจริงข้อนี้ไม่ได้เกิดเฉาะกับพลังความคิดที่เปี่ยมด้วยศรัทธาเท่านั้น แต่เป็นจริงกับทุกอารมณ์รวมไปถึงอารมณ์เชิงลบด้วย

     นั่นก็หมายความว่า  จิตใต้สำนึกนั้นจะแปรเปลี่ยนไปสู่พลังความคิดเชิงลบหรือในทางทำลายล้างได้เช่นเดียวกันกับการแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือสร้างสรรค์นักอาชญาวิทยาได้เคยพูดถึงประเด็นนี้ไว้ว่า

“ครั้งแรกที่คนเราสัมผัสกับอาชญากรรม จะรังเกียจมัน แต่ถ้าเขายังเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมต่อไปอีกระยะหนึ่ง จะเริ่มเคยชินและทนกับมันได้ เขาจะรับมันไว้และถูกครอบงำในที่สุด” 

    นี่เป็นปฏิสัมพันธ์ของพลังความคิดเชิงลบที่ได้ผ่านเข้าไปสู่จิตใต้สำนึกมากพอ  จนทำให้จิตใต้สำนึกยอมรับมันในที่สุด จิตใต้สำนึกจะแปรเปลี่ยนพลังนั้นให้เกิดผลในทางปฏิบัติ  นี่คือคำอธิบายว่าทำไมปรากฏการณ์เลวร้ายจึงมักเกิดขึ้นกับคนนับล้านที่คิดว่าตัวเองโชคร้าย  มีผู้คนนับล้านที่เชื่อในเคราะห์กรรมของตัวเองที่ยากไร้และล้มเหลว  เพียงเพราะพลังที่เขาเรียกว่าความโชคร้าย และมีความเชื่อว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมได้

ความเป็นจริงแล้วตัวพวกเขาเองต่างหากที่เป็นผู้สร้างความอับโชคให้ตัวเอง  เนื่องจากความเชื่อในโชคร้าย  ได้เข้าไปสู่จิตใต้สำนึกแบบแปรเปลี่ยนไปสู่ผลในทางปฏิบัติ ความเชื่อหรือศรัทธาของคุณเป็นรากฐานที่จะกำหนดการทำงานของจิตใต้สำนึก ดังนั้นผมจึงขอเน้นย้ำว่า คุณจะได้ประโยชน์จากการส่งปณิธานที่คุณปรารถนาลงไปสู่จิตใต้สำนึก เพื่อแปรเปลี่ยนให้เกิดผลในทางปฏิบัติหรือเป็นเงินทอง

จิตใต้สำนึกจะแปรเปลี่ยนให้เกิดผลในทางปฏิบัติด้วยวิถีทางที่สะดวกและตรงที่สุด  คำสั่งใดก็ตามที่ลงไปสู่จิตใต้สำนึกด้วยความเชื่อและศรัทธาย่อมจะบังเกิดผล  โปรดสังเกตประเด็นนี้ให้ดี เนื่องจากมันเป็นหนทางที่จะทำให้จิตใต้สำนึกทำงาน

เมื่อคุณให้คำแนะนำจิตใต้สำนึกด้วยการเสนอแนะตนเองแล้ว คุณจะสามารถหลอกล่อจิตใต้สำนึกได้โดยไม่มีสิ่งใดมาหยุดยั้งคุณ ตัวผมเองก็เคยได้ใช้วิธีนี้หลอกล่อจิตใต้สำนึกของผม

 เมื่อคุณจะเรียกใช้จิตใต้สำนึกโดยการหลอกล่ออย่างแนบเนียนนั้น  คุณจะต้องทำตัวเองให้เสมือนว่าได้ครอบครองสิ่งที่ต้องการไว้เรียบร้อยแล้ว

    คุณจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นอารมณ์เชิงบวกให้เป็นกำลังหลักของจิตใจ อย่างไรก็ตามศรัทธาในตัวคุณไม่ได้มาจากการอ่านเพียงแค่คำแนะนำ  คุณจะต้องเข้าใจทฤษฎีอย่างถ่องแท้และเริ่มนำมันไปปฏิบัติ
ด้วยประสบการณ์และการลงมือปฏิบัติจะทำให้คุณสามารถพัฒนาศักยภาพในการผสมผสานศรัทธาเข้ากับคำสั่งที่ส่งลงไปในจิตใต้สำนึกได้

    เมื่อคุณมีศรัทธาในความสามารถของตัวเองแล้ว คุณจะสามารถออกคำสั่งต่อจิตใต้สำนึกได้  ซึ่งจิตใต้สำนึกจะยอมรับและตอบสนองในทางปฏิบัติทันที การที่จิตใจของคุณมีอารมณ์เชิงบวกเป็นหลัก
จะช่วยสนับสนุนให้เกิดศรัทธาขึ้นในจิตใจ

ศรัทธาในตัวเองเป็นสภาวะจิตใจ ที่คุณสามารถสร้างได้ด้วยการเสนอแนะตนเอง

ตลอดทุกช่วงวัยของเรา ผู้นำทางศาสนามักจะตักเตือนให้ผู้คน “มีศรัทธา” เมื่อเขากล่าวถึงการมีศรัทธา จะดูเหมือนว่าไม่มีเหตุผล เป็นแค่หลักความเชื่อทางศาสนา แต่สิ่งที่พวกเขาพลาดก็คือ ไม่ได้บอกว่าการจะมีศรัทธานั้นทำอย่างไร พวกเขาไม่ได้บอกให้รู้ว่า

“ศรัทธาเป็นสภาวะจิตใจที่สร้างขึ้นมาได้ด้วยการเสนอแนะตนเอง” 

ในบล็อกนี้ ได้อธิบายด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายถึงหลักการเพิ่มศักยภาพในตัวคุณ  เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายด้วยศรัทธาซึ่งเดิมเราไม่ได้มีมาก่อน  ก่อนที่เราจะเริ่มต้น คุณควรจะถูกย้ำเตือนอีกครั้งว่า

ศรัทธา เป็น “น้ำทิพย์อมตะ” ที่ให้ชีวิต ให้พลัง และให้ผลในทางปฏิบัติแก่พลังความคิด  ข้อความข้างบนนี้มีคุณค่าในการอ่านซ้ำ 2 ครั้ง , 3 ครั้ง และ 4 ครั้ง มันยิ่งมีคุณค่าถ้าคุณอ่านออกมาดังๆ
ศรัทธา เป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่งร่ำรวย 
ศรัทธา เป็นพื้นฐานของความมหัศจรรย์ และความลึกลับที่ไม่สามารถอธิบายด้วยกฎทางวิทยาศาสตร์
ศรัทธา เป็นภูมิต้านทานความล้มเหลวเพียงอย่างเดียวที่เรารู้จัก
ศรัทธา เป็นสิ่งสำคัญในการผสมผสานกับปณิธาน เพื่อทำให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารกับอัจฉริยภาพ
แห่งจักรวาลได้
ศรัทธา เป็นสิ่งสำคัญในการแปรเปลี่ยนคลื่นความคิดที่สร้างสรรค์จากจิตใจให้เข้าไปสู่จิตวิญญาณ
ศรัทธา เป็นวิถีทางเดียวที่จะควบคุมอัจฉริยภาพแห่งจักรวาล และนำไปใช้ประโยชน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทุนเรียนต่อเมืองนอก

E-Book แนะนำ รองรับโทรศัพท์มือถือ


กรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิพิเศษ